กว่าจะได้บิน ตามรอย ซีรีส์ชุด ลูกไม้ของพ่อ เรื่อง ในม่านเมฆ

ตอนเด็กๆทุกคนย่อมมีความฝันอยากเป็นนู่นอยากเป็นนี่ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนคงฝันเหมือนกันตอนเป็นเด็ก คือ อยากเป็นนักบิน อยากบินได้ บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่ มันคือความจริงที่ทุกคนสมัยเด็กๆคงเคยฝันแบบนี้

เช่นเดียวกับ ทิวเมฆ เหนือกาล ใน ซีรีส์ชุด ลูกไม้ของพ่อ เรื่อง ในม่านเมฆ เส้นทางการเป็นนักบิน จะเริ่มต้นอย่างไร อุปสรรคอะไรบ้าง วันนี้เรามีมาให้ชมกันค่ะ

ในแต่ละมีเด็กหนุ่มจำนวนมากไปสมัครสอบนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพอากาศจากผู้สมัครสอบเป็นหมื่นคนแต่จะมีผู้สมหวังเพียงร้อยกว่าคน หลังจากนั้นก็จะไปเรียนร่วมกับนักเรียนอีก 3 เหล่าทัพคือ ทหารบก,ทหารเรือ,ตำรวจ

ที่โรงเรียนเตรียมทหารเรียนรวมกันอยู่ 2 ปี หลังจากนั้นก็จะแยกเหล่าในส่วนของกองทัพอากาศจะไปเรียนที่โรงเรียนนายเรืออากาศใช้ชีวิตลูกผู้ชายที่ทุ่งดอนเมืองอีก 5 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาโรงเรียนการบินจะรับสมัครผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศ กองทัพอากาศจะทำการคัดเลือกศิษย์การบิน โดยผ่านการตรวจสอบทั้งร่างกาย จิตใจและเชาว์ปัญญารวมทั้งความถนัดด้านการบินตามที่กองทัพอากาศกำหนดและจะได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรการฝึกศิษย์การบิน ณ.โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยแบ่งเป็นปีละ 2รุ่นๆละประมาณ 35-50 คน

เมื่อผ่านขั้นตอนการบินต่างๆตามที่ ร.ร.การบินได้กำหนดไว้และสำเร็จตามหลักสูตรแล้วกองทัพอากาศจะบรรจุนักบินใหม่เข้าสู่เส้นทางการเป็นนักบินขับไล่โจมตี นักบินลำเลียงและนักบินเฮลิคอปเตอร์ต่อไป ในรุ่นหนึ่งๆของศิษย์การบินที่จบประมาณ 30 นาย จะถูกคัดสรรจากกองทัพอากาศเข้าสู่เส้นทางการบินเป็นนักบินขับไล่โจมตีจำนวน 10 นาย ทั้ง 10 นายจะถูกส่งไปฝึกเป็นนักบินขับไล่ขั้นต้น ณ.กองบิน จ.นครราชสีมา การฝึกบินจะใช้เครื่องบินแบบ L-39 จะทำการฝึกประมาณ 6 เดือน เมื่อจบหลักสูตรนักบินทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปประจำฝูงบินขับไล่ทางยุทธวิธี เช่น L-39,Alphajet.F-5,F-16

หลังจากได้รับคัดเลือกเพื่อที่จะมาบินกับ บ. F-16 แล้วต้องเข้าเรียนหลักสูตรการบิน บ. F-16 ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือวิชาภาคพื้นดินและภาคอากาศ วิชาภาคพื้นดินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องบิน F-16 เช่น ระบบโครงสร้างและการทำงานทั้งหมดของ F-16, ระบบเครื่องยนต์,ระบบเอวิโอนิคส์,ระบบอาวุธ ฯลฯ อีกส่วนหนึ่งคือการเรียนทฤษฎีด้านการบิน โดยมีครูการบินเป็นผู้ทำการทดสอบถึงวิธีการบินเปลี่ยนแบบนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งในภาคนี้จะใช้เวลาทำการเรียนประมาณ 2 เดือน

เมื่อจบวิชาภาคพื้นดินแล้วก็ก็เป็นภาคอากาศก็จะเป็นปฏิบัติการการบินกับ บ F-16 จริงๆ นักบินทุกนายจะต้องไปฝึกบินกับเครื่องฝึกบินจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ทีกองบิน 4 ตาคลีเพื่อให้มีความคุ้นเคยกับระบบและการปฏิบัติต่างๆใน Cockpit ของ F-16 เป็นเวลา 2อาทิตย์ โดยมีครูการบินเป็นผู้ควบคุมและการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นจึงจะเริ่มการบินภาคอากาศด้วย F-16B (รุ่น 2 ที่นั่ง)ที่กำหนดไว้ 7 เที่ยวบินโดยในหลักสูตรจะให้นักบินทำการปล่อยเดี่ยวได้ในเที่ยวที่ 7เมื่อนักบินทำการบินเดี่ยวได้แล้วก็จะช่วยทำให้นักบินมีความมั่นใจมากขึ้นขั้นตอนต่อไป คือการบินยุทธวิธีเริ่มด้วยการบินสกัดกั้น 1V1 เที่ยวบิน การบิน Air To Air ด้วย Basic Fighter Maneuver (BFM) 11 เที่ยวบิน และ Advance Combat Maneuver (ACM) 6 เที่ยวบิน การบินยิงเป้าอากาศ (DART) 2 เที่ยวบิน การบิน Air To Ground จะเป็นการบิน Surface Attack (SA) 6 เที่ยวบิน และ Surface Attack Tactics (SAT) อีก 7 เที่ยวบิน

และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการบิน Air Combat Tactic (ACT) 2 เที่ยวบินกับการบิน NITE 1 เที่ยวบินที่เหลือก็เป็นการบิน Instrument รวมบินภาคอากาศ ด้วย F-16 ประมาณ 46 เที่ยวบิน อันเป็นการจบหลักสูตร นักบินพร้อมรบ F-16 หรือที่เราเรียกกันว่า F-16 Combat Readey นั่นหมายความว่านักบินผู้นี้ได้จบหลักสูตรอย่างสมบูรณ์แล้วพร้อมได้รับประกาศนียบัตรการเป็นนักบิน F-16 และเมื่อได้เป็นนักบิน F-16 สมใจแล้วก็จะต้องฝึกบินกับ F-16 อย่างต่อเนื่องเพื่อสั่งสมประสบการณ์ด้านการบินด้านการบินยุทธวิธีและอื่นๆซึ่งต้องอาศัยความรู้ความและสามารถและทักษะด้านการบินอย่างมากเพื่อพร้อมที่จะนำ F-16 ทะยานขึ้นปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพทุก เวลาตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายหน้าที่ให้ และนี่คือด่านต่างๆกว่าจะได้เป็นนักบิน F-16 อย่างเต็มภาคภูมิ

ขอบคุณข้อมูล : http://www.crewsociety.com