รีเซต

เปิดใจชีวิตคู่ สมบัติ-กาญจนา หลังครองรัก 59 ปี เผยนอนผวากลัวจะพรากจากกันไป

เปิดใจชีวิตคู่ สมบัติ-กาญจนา หลังครองรัก 59 ปี เผยนอนผวากลัวจะพรากจากกันไป
Entertainment Report_1
17 กุมภาพันธ์ 2561 ( 06:30 )
11.6K

เป็นพระเอกตลอดกาล สำหรับ อาแอ๊ด สมบัติ เมทะนี ในวัย 80 ปี ที่โด่งดังมากในสมัยก่อน เล่นหนังมากว่า 700 เรื่อง จนทำให้ทุกวันนี้ตัวอาแอ๊ดเองมีผลกระทบกับร่างกายเกิดขึ้นอย่างมาก ทั้งเรื่องดวงตาที่ฟ่าฟาง ซึ่งเกิดจากเมื่อสมัยเล่นหนังบทรัก อยากให้ตาวาวๆ เลยเอายามาหยอดตา โดยไม่รู้ว่าจะเกิดผลเสียอะไรขึ้นบ้าง และหู ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นหูดับข้างหนึ่งไปแล้ว ล่าสุด อาแอ๊ดก็ได้ควงคู่ชีวิตมาตลอด 80 ปี อาตุ๊ กาญจนา เมทนี มาเล่าเรื่องราวความรักที่มีแต่กันและกัน

 

เล่นภาพยนตร์ทั้งหมดกี่เรื่อง
“700 กว่าเรื่อง ถ่ายวันละ 3 เรื่องครับ”

เล่นหนังบู๊จนทำให้สุขภาพผิดปกติ?
“ตาเราเวลาโดนแสงมากๆ มันก็จะแดงใช่มั้ย แล้วทีนี้เค้าต้องการให้ตาเป็นสีขาว ดูวาวๆ นางเอกที่เล่นด้วยกันก็เอายาหยอดตามาให้ พร้อมกับบอกว่ามันดีมากเลย ผมก็ว่าดี พอหยอดปุ๊บก็ขาวเลย แต่ทีนี้เราไม่รู้ว่าวิธีใช้มันต้องใช้ขนาดไหน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทีนี้ตอนเล่นบทรักดวงตาต้องเป็นประกาย เราก็ใช้อันนี้หยอดตา หยอดจนเกินโดส เค้าให้ใช้วันหนึ่งไม่เกิน 3 ครั้ง แต่เราหยอดวันหนึ่งเกิน 10 ครั้ง อาการตอนนี้ก็ทำให้แย่ไปเหมือนกัน แต่ไม่บอด มันจะมองเห็นแบบแคบลง ความชัดจะชัดปกติ คือเราก็กลัวตาบอดมาก แต่ก็ไปหาหมอให้ช่วยดูแล แต่ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้”

“ส่วนหูก็เหมือนกัน เพราะเราเล่นบทบู๊ หนีระเบิด เอฟเฟคต่างๆ สมัยก่อนใช้ของจริงหมด พอเสียงดังปังก็จี๊ดเลย หูข้างซ้ายจะแย่กว่าข้างขวา ประสาทหูจะดรอปลงไปเรื่อยๆ คือได้ยินเรื่อยๆ แต่จะได้ยินแบบเบาๆ ตอนนี้ก็ใส่เครื่องช่วยฟังอยู่”

การที่เราเล่นหนังมา 700 กว่าเรื่อง จนตามีปัญหา หูผิดปกติ คิดว่ามันคุ้มมั้ย?
“มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เราปลงแล้วนะครับ พวกเราอาชีพแบบนี้ เราก็ต้องทำให้มันดีที่สุด เมื่อมันเกิดขึ้นมาเราก็ต้องยอมรับ”

ทุกวันนี้ไม่รับเล่นละครเลย?
“ก็บ้างครับ เวลาได้ยินใกล้ๆ มันก็ชัดดี แต่พอพูดกันห่างๆ จะไม่ได้ยินเลย”

ลูกชายสั่งให้งดรับงานทุกชนิด?
“สั่งให้อยู่เฉยๆ อยู่บ้านก็เขียนหนัง วาดรูปอยู่บ้าน”

เหตุการณ์ที่ต้องหามเข้าโรงพยาบาล จนต้องเข้าไอซียู สาเหตุจากอะไร?
ภรรยา แอ๊ด สมบัติ บอกว่า “คราวนั้นเป็นหนักน้อยกว่าคราวนี้ แต่ว่าส่งโรงพยาบาลช้า เกิดจากติดเชื้อในกระแสเลือด คือครั้งแรกพี่แอ๊ดต้องไปบรรยายเกี่ยวกับเกษตรทั่วประเทศ ระหว่างรอขึ้นเครื่องบินเค้าก็อยากไปนวดรอ คือเค้าชอบนวดมาก คนนวดก็มองหน้าอาแอ๊ดไง เค้าก็เอาที่กดจุดกดไปเรื่อย ก็ไปกดเอาตาตุ่ม นี่ก็สะดุ้ง ชักเท้าออกก็เป็นแผลถลอก อยู่ก็ๆ เป็นไข้ตัวร้อนจี๋ แต่เค้าไม่ยอมไปโรงพยาบาลบอกว่าเดี๋ยวก็หาย หลังจากนั้นเค้าไม่ได้สติแล้วไง แล้วเชื้อโรคมันวิ่งไปตามเส้นเลือดหมดแล้ว แต่โชคดีที่ไม่มีโรคประจำตัว ไม่งั้นตายไปแล้ว โชคดีที่ตอนนี้กลับมาแข็งแรงแล้ว”

อาแอ๊ดเฉียดตายมากี่ครั้งในชีวิต?
อาแอ๊ด “นับไม่ถ้วนเลยครับ โดยเฉพาะภาพยนตร์จะเป็นบู๊ซะเยอะ สมัยนั้นไม่มีแสตนอินครับ ต้องเล่นเองทั้งหมด”

ในสมัยนั้น อาตุ๊ไม่สามารถเปิดตัวหรือไปดูแลอาแอ๊ดได้ ต้องอยู่อย่างเงียบๆ?
อาตุ๊ “อยู่เงียบๆ มา 13 ปี คือเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะเป็นแฟนด้วยซ้ำไป เดือน ส.ค. จะครบรอบแต่งงาน 59 ปี”

อาแอ๊ดชอบอาตุ๊เพราะอะไร?
“คือวันหนึ่งเรากลับมาจากเรียน เราเห็นเสื้อผ้ามันถูกรีดแขวนอยู่ ก็ถามน้องสาวทำไมใจดีรีดผ้าให้ น้องบอกไม่ใช่ แต่เป็นคนโน้น (ชี้ไปทางอาตุ๊) จากนั้นเราก็เลยปลื้มเค้า ที่เค้ารีดผ้าให้เรา”

ความรักเกิดจากการรีดผ้า?
อาแอ๊ด
“ใช่ครับ(ยิ้ม)”

เหนื่อยมั้ยกับการดูแลอาแอ๊ด ทีเ่ราต้องตื่นก่อนนอนทีหลัง?
อาตุ๊ “โอ๊ย มากกว่านี้ก็ทุ่มให้เค้า เราคุยกับลูกว่า ตอนนี้เราต้องดูแลพ่อให้มากๆ นะ เพราะพ่อเค้าทำงานเหนื่อย ที่ตาเค้าเป็นแบบนี้เพราะเค้าทำงานหาเงินมาเลี้ยงพวกเรา แล้วลูกสาวพอว่างก็จะมาตัดเล็บให้พ่อ ส่วนลูกชาย 4 คน ก็จะซื้อเสื้อมาฝากพ่อ 4 ตัวเลย”

เห็นว่าบางวันเคยนอนจับมือกันร้องไห้ เพราะกลัวว่าวันหนึ่งใครจะไปก่อนกัน จริงมั้ย?
อาตุ๊ “จริง วันหนึ่งเรานอนหลับอยู่ ตื่นมาเห็นเค้านั่งจ้องเรา เราก็ถามว่าพ่อเป็นอะไรรึเปล่า เค้าก็บอกว่า กลัวว่าวันหนึ่งตื่นมาไม่เห็นเรานอนข้างๆ แล้ว ทุกวันนี้เค้าก็ยังกลัวอยู่”

อาแอ๊ด “ความดีที่เราเห็น คือเค้าก็ลำบากมานะครับ เราก็จ้องหน้าเค้า แล้วเราคิดว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ลำบากเพื่อเรา และเราก็รักเค้า ไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนกัน มันเป็นธรรมดาสำหรับคู่สามีภรรยา ที่อยู่กันมานานพอสมควร อยู่กันมา 59 ปีแล้ว อยู่ๆ ก็นึกถึงกันว่าใครจะไปก่อนกันนะ คือถ้าเราไปก่อนเค้า เค้าอาจจะต้องทนอยู่ แต่ถ้าเค้าไปก่อนเราแล้วใครจะทนไหว มันเป็นเรื่องของสามีภรรยาที่รักกันมากครับ”

เคยสั่งเสียอะไรกันมั้ย?
อาตุ๊
“เค้าเป็นผู้ชายเค้าจะไม่ค่อยพูด แต่เราจะพูดตลอดกับลูกสาวว่า ถ้าแม่เป็นอะไรไป หนูต้องหาคนมาดูแลคุณพ่อ แล้วหนูอย่าไปรังเกียจเค้า ต้องขอบคุณเค้า ซึ่งลูกสาวก็ตอบมาประโยคหนึ่งที่ทำเอาเราต้องหันหลังร้องไห้ เค้าบอกว่า ต้องเห็นใจหนูนะ หนูเกิดมาช้า ยังไม่ค่อยได้ดูแลคุณพ่อคุณแม่เท่าไหร่เลย หนูอยากทุ่มเท ให้เค้ารอหน่อย”

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์ศุกร์ 14.00-15.00ทางช่อง one31

อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App  หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID