ไฮโซม่านฟ้า จัดหนัก ฟ้องมือแฉ 100 ล้าน เผย เป๊ก-รัฐภูมิ สนิทที่สุด แต่ยังไม่เรียกแฟน

     
     ออกมายืนยันพร้อมทั้งย้ำหนักแน่นว่าจะเดินหน้าฟ้องมือโพสต์แฉเป็นไฮโซปลอม พร้อมทั้งเรื่องราวไม่จริงต่างๆ ของตัวเอง ล่าสุด “ไฮโซม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” ได้ออกมาเปิดถึงรายละเอียดทุกเรื่องราวอีกครั้งในรายการปากโป้ง ทางช่อง 8 ที่มี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พร้อมด้วย เข็ม-ลภัสรดา ช่วยเกื้อ เป็นพิธีกรพร้อมกับเซอร์ไพร้สจากนักแสดงหนุ่ม “เป๊ก รัฐภูมิ ไข่นาค” หวานใจคนใหม่ที่มาพูดคุยพร้อมให้กำลังใจในรายการด้วย

    “กับเรื่องของข่าวต่างที่ผ่านมาตอนนี้ม่านฟ้าก็ได้ออกมาชี้แจ้งให้ทุกคนได้รับรู้หมดแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขับรถหรู เพชรปลอมหรือไม่ปลอม ก็ออกมาพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้ว ส่วนเรื่องไฮโซหรือเปล่านั้น จริงๆแล้วม่านฟ้าก็เป็นของเราแบบนี้มานานแล้วเพียงแต่ที่ผ่านไม่ได้เป็นข่าวกับดารา พอเป็นข่าวขึ้นมาเลยทำให้คนให้ความสนใจมากขึ้น สำหรับเรื่องของทรัพย์สินนั้นก็มีทั้งสมบัติเก่าของพ่อแม่และก็เป็นสมบัติที่เราสร้างขึ้นเพราะม่านฟ้าเปิดบริษัททำธุรกิจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อาหารเสริม โป๊กเกอร์ หน้านาย ฯลฯและที่สำคัญครอบครัวพ่อแม่ก็ทำธุรกิจรถเช่าที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯด้วย ครอบครัวก็พอที่จะมีเงินอยู่แล้ว”
     
     “เรื่องของการฟ้องร้องนั้นตอนนี้ก็เตรียมที่จะฟ้องร้องกับทุกคนที่แฉเรื่องของม่านฟ้าที่ไม่ได้เป็นความจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ม่านฟ้าเคยบอกว่าพร้อมที่จะให้ขุดขุ้ยเรื่องราวของม่านฟ้าได้ ถ้าเรื่องนั้นมันคือเรื่องจริงเราก็พร้อมที่จะเปิดเผยและยอมรับอยู่แล้ว แต่ถ้าการขุดขุ้ยเรื่องที่ไม่เป็นจริงออกมาโพสต์กันมันย่อมส่งผลเสียกับตัวม่านฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของม่านฟ้าพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องที่ออกมาโพสต์ว่าเราเป็นไฮโซกำมะลอนั้นม่านฟ้ารู้สึกว่ามันเสียหายมากเพราะทุกวันนี้คนติดภาพเราเรื่องของการเป็นไฮโซเมื่อออกมาโพสต์แบบนี้ย่อมส่งผลกระทบกับตัวเองและครอบครัว รวมถึงธุรกิจที่ทำอยู่เพราะคนขาดความเชื่อมั่นในตัวเรา”

     ไฮโซม่านฟ้า กล่าวต่อว่า “กับคนที่โพสต์นั้นตอนนี้ทราบรายละเอียดหมดแล้วว่าใครเป็นใครซึ่งที่ผ่านมาก็เปิดโอกาสให้เข้ามาขอโทษแล้ว ตอนนี้ก็เข้ามาขอโทษบ้างแล้ว สำหรับคนที่เข้ามาขอโทษม่านฟ้าก็จบไม่ติดใจอะไร ส่วนต้นตอที่นำเรื่องของม่านฟ้าไปลงนั้นยังไม่ได้มีการติดต่อมา ส่วนค่าเสียหายที่เรียกนั้นก็ 100 ล้านบาทแต่ความจริงแล้วเงินเราไม่อยากได้หรอกเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับเรา แต่เราจะทำให้เขารู้สึกสำนึกมากกว่ากับสิ่งที่คุณทำกับเรา ซึ่งตอนนี้ม่านฟ้าก็เปิดโอกาสให้เขาเข้ามาขอโทษจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ถ้าเกิดกว่านี้ก็จะให้ทางตำรวจเป็นคนดำเนินการทั้งหมดเพราะเรายื่นเรื่องให้ทางทนายไปดำเนินการแล้ว”

     “กับเรื่องของไลน์ที่หลุดมานั้นเราก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราไม่รู้เรื่องว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร เราก็ไม่ต้องการที่จะเกาะกระแสดังอะไรเพราะว่าเราไม่ใช่ดารา แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะคิดว่าเราสร้างไลน์เท็จ สร้างกระแสขึ้นมา แต่วันนี้การที่คุณสนออกมายอมรับความจริงว่าทำมือถือหายเลยนั้นก็รู้สึกดีที่เขาเป็นลูกผู้ชายกล้ารับโดยส่วนตัวเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วไม่ได้โกรธอะไรกัน หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันแต่การที่คุณสนออกมาพูดก็ทำให้เราสบายใจขึ้นเพราะอย่างน้อยก็ทำให้เราหลุดพ้นข้อกล่าวหาต่างๆแล้ว”

     ม่านฟ้า กล่าวเพิ่มว่า “กับคุณเป๊กรู้จักกันมานานแล้วเพราะเป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่เพิ่งจะมาสนิทกันจริงๆก็ประมาณ 2 เดือนนี้ ถามว่าใช่สเปคของเราไหม ก็บอกว่าใช่เพราะม่านฟ้าชอบผู้ชายสูง ขาว ตี๋ แต่ตอนนี้ถามว่าเป็นแฟนกันหรือยัง ตอนนี้ก็คงยังไม่ใช่แฟน แต่เป็นผู้ชายที่สนิทที่สุดตอนนี้ ส่วนจะพัฒนาไปขนานไหนก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า สำหรับที่ผ่านมานั้นเขาก็เป็นกำลังใจให้กับเราอย่างดี เวลาที่มีเรื่องเป๊กจะเป็นคนเดือดร้อนแทนเรา คอยให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ เรียกว่าเป็นที่ปรึกษาที่ดี แต่ตอนนี้จะบอกว่าเป็นแฟนไหม ม่านฟ้ารู้สึกมันเร็วเกินไปเพราะเพิ่งจะรู้สึกและศึกษากันได้ไม่นาน แต่ยอมรับว่าเป๊กเป็นคนพิเศษที่สุด ส่วนเรื่องที่ไปเจอกับครอบครัวกันทั้งสองฝ่ายนั้นยังไม่มีโอกาสเจอ แต่แค่ทักและพูดคุยกันทางไลน์บ้างเท่านั้น”

     ด้าน เป๊ก รัฐภูมิ  กล่าวว่า “ตอนนั้นผมก็ไม่มีแฟนและก็ได้มีโอกาสรู้จักกัน ตอนนี้ยอมรับว่าจีบม่านฟ้าอยู่ตอนนี้ก็รู้จักกันมาประมาณ 2 เดือนแล้วเค้าเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ซึ่งคนที่ได้รู้จักม่านฟ้าจะรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อน เป็นไฮโซที่ติดดินมาก เลยทำให้รู้สึกประทับใจในตัวม่านฟ้า ส่วนเรื่องที่ชอบเขาก็เพราะเขาเป็นคนมีน้ำใจ เป็นคนตรงๆ ไม่โกหก เป็นคนจริงใจ ไม่ถือตัวด้วย กับเรื่องที่ม่านฟ้าเวลาที่เจอเพื่อนผู้ชายแล้วชอบกอดนั้น ตรงนี้ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะคนที่รู้จักม่านฟ้าจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะอยู่แล้วและเวลาเจอกันก็จะกอดกันเป็นการทักทายก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร”