เทหมดหน้าตัก นุช วิลาวัลย์ ขายสมบัติเก่าหมดตัว ทำเพลง ต่อลมหายใจครอบครัว

เทหมดหน้าตัก นุช วิลาวัลย์ หมอลำสาว ขายสมบัติเก่าหมดตัว ทำเพลง-เอ็มวี น้องพร้อมเจ็บ ต่อลมหายใจครอบครัว พ้อไม่มีแม้เงินค่าเช่าบ้าน

ศิลปินสาวหมอลำตัวแม่ นุช วิลาวัลย์ หลังหมดสัญญาค่าย อาร์สยาม เจ้าตัวได้เปิดใจเล่าน้ำตาคลอ ชีวิตต้องสู้ต่อ อาชีพนักร้องจากที่เจอพิษโควิด-19 ทำให้ไม่มีงานจ้างแสดงคอนเสิร์ต ขาดรายได้ เป็นเสาหลักเลี้ยงครอบครัว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 หมอลำสาว นุช วิลาวัลย์ ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตนเองในกองถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงใหม่ล่าสุด น้องพร้อมเจ็บ ที่ตัดสินใจขายสมบัติส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นทอง หรือกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีอยู่ เพื่อเอามาเป็นทุนในการทำเพลงและมิวสิควีดีโอในครั้งนี้ ในวันที่ไร้สังกัด

เจ้าตัวบอกกัดฟันสู้ เพราะมีอาชีพนักร้องเป็นหลัก เลยยอมเอาเงินที่มีทั้งหมดมาลงทุนทำเพลงหวังว่า หากโควิดดีขึ้น จะได้กลับมารับงานโชว์ร้องเพลงเหมือนเดิมเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว สาเหตุที่ต้องทำเพลงใหม่ในตอนนี้ เพราะไม่มีผลงานเพลงใหม่ๆ มาเกือบ 2 ปีแล้ว พอหมดสัญญาเลยต้องลงทุนทำเพลงเองทั้งหมด

ยอมรับว่าชีวิตตอนนี้ลำบากขนาดเงินเช่าบ้านยังไม่พอจ่าย โชคดีที่คุณป้าเจ้าของบ้านเมตตา ลดค่าเช่าให้เหลือไม่ถึงหมื่นบาท จากราคาเดิมสองหมื่นกว่าบาท ถ้าไม่ได้คุณป้าช่วยลดค่าเช่าบ้าน คงต้องย้ายไปอยู่บ้านต่างจังหวัด และกลับไปนับหนึ่งใหม่

“ต้องเข้าใจว่าโควิดมันมาสองรอบเลย ทำงานไม่ได้เลย เรามีร้านอาหารก็จริง แต่มันนั่งทานที่ร้านไม่ได้ ลูกค้าก็บาง ติดลบมานานแล้วค่ะ นอกจากควักเงินตัวเองก็ขายของจะหมดแล้วค่ะ ขายกระเป๋าด้วยเรียกว่าทุ่มทุนสร้าง เราซื้อกระเป๋ามาจากต่างประเทศค่อนข้างแพง หลักแสน แต่ก็ต้องขายเพื่อให้เราได้เงินมา ถ้าคิดเป็นมูลค่าตอนนี้ด้วยความที่มีพี่ๆช่วย แต่ถ้าคิดเป็นมูลค่าตามจริง เอ็มวีนี้น่าจะหมดประมาณ 2-3 แสน ถ้ารวมค่าสถานที่ต่างๆ แต่อย่างวันนี้ประมาณแสนนิดๆ เราได้น้ำใจ แต่เราไม่มีเงินเลยจริงๆ ก็โพสต์ขายกระเป๋าตามเพจ พูดแล้วจะร้องไห้ (เสียงสั่นน้ำตาคลอ)”

สถานการณ์การเงินแย่ในช่วงโควิด ขอลองสักตั้งทำเพลงออกมา
“นุชคิดว่าขอลองสักตั้ง การที่เราได้ทำดีกว่าเราอยู่เฉยๆ แล้วเงินเราออกๆ ไปเรื่อยๆ สู้กับตอนนี้ที่เรามีอะไรก็แล้วแต่ที่มันสามารถแปรรูปเป็นมูลค่าได้ ขายทองไปหมด ทุกอย่าง อันนี้คือหมดหน้าตัก ถ้าต่อไปเพลงไม่มา ถ้าติดลบอยู่อย่างนี้ ถ้ายังไม่มีคอนเสิร์ต รถก็อาจจะปลิวไป บ้านก็อาจจะ เราตั้งใจทำด้วยใจ เทหมดหน้าตักทุกอย่างที่มีตอนนี้คือเหมือนกับเกลี้ยงแล้ว ถ้าผลตอบรับกลับมาแล้วมันไม่บวกก็ทำใจยอมรับค่ะ ยอมรับในความที่เราเลือกแล้วว่าไหนๆ ก็อยู่ตรงไหนก็ต้องทำงานเองอยู่แล้ว อยากลองทำดูสักตั้งหนึ่ง”

คาดหวังกับซิงเกิลนี้มากพอสมควร
“คาดหวังมากค่ะ จากเมื่อก่อนเพลงอื่นๆ เราอาจจะมีต้นทุนที่เงินเก็บ มีเงินเหลือ แต่ตอนนี้คาดหวังมาก เพราะว่านอกจากเงินไม่เหลือแล้ว ของที่มีก็ไม่เหลือค่ะ”

ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง?
“เปิดได้หนึ่งปีแล้ว ตอนเปิดมันยังไม่มีโควิดมันก็ขึ้น พอมีโควิดก็วูบลง จากที่มีกำไรแสนสองแสน อยู่ดีๆ โควิดมาติดลบไปสองแสน จากที่เรามีกำไรสองแสน ก็มีโควิดกลับมาอีก ตอนนี้ติดลบทุกอย่าง ถึงบอกว่าค่อนข้างคาดหวังกับเพลงนี้มาก เพราะว่าถ้าแฟนๆ ให้การตอบรับอย่างดีเราก็จะมีคอนเสิร์ตที่คลายล็อกกันได้ ถ้าสามารถจัดงานกันได้บ้าง เราก็มีงาน มีซิงเกิลใหม่มาให้โชว์ได้ มีเงินมาหมุนได้ เพราะตอนนี้ที่บ้านมาอยู่กับเราที่กรุงเทพฯ เราไม่จ้างคนอื่น เราใช้คนที่บ้านของเราช่วยกันทำ ให้เท่านี้นะ จากปกติตั้งเงินเดือนไว้เท่านี้ๆ ก็ต้องลดลง ค้างเงินเดือนพี่ๆ ที่ร้านเหมือนกัน พี่น้องกันนี่แหละ เราก็ต้องให้เขาเผื่อใช้จ่าย”

จะพยุงไปได้อีกนานแค่ไหน?
“ที่ยังอยู่ได้เพราะว่ามีลูกค้าประจำ และคุณป้าเจ้าของบ้านใจดีมากมาก จากที่ราคาเช่าสูงมากแล้วก็ลดให้แล้วจากโควิดรอบแรก ตอนนี้ก็ลดลงมาอีกจนคุณป้าไม่ได้อะไรหรอกค่ะ เขาอยากช่วยว่าถ้าหนูกลับบ้านแล้วจะไปทำอะไร คุณป้าเจ้าของบ้านน่ารักมาก จากบ้านที่เช่าในหลัก 2-3 หมื่น ตอนนี้หนูได้เช่าไม่ถึงหมื่น คุณป้าน่ารักมาก หนูบอกว่าถ้าสิ้นเดือนกุมภา หนูไม่ไหว หนูต้องได้มูฟแล้วนะคะ จะกลับไปอยู่บ้านแล้ว เขาก็รีบโทรมาเลยถ้ากลับไปอยู่บ้านแล้วจะยังไง จะไปอยู่บ้านแล้วมันจะไหวมั้ย เพราะยังไงหนูก็ยังเช่าที่อยู่กรุงเทพฯ มีคิวละครถ่ายอยู่ช่อง 8 เช่าบ้านที่กรุงเทพฯ มีร้านข้างหน้า เดินทะลุมาเป็นบ้านเป็นพื้นที่เดียวกัน ตอนนี้ก็ยังอยู่ ทรงๆ ทรุดๆ ทรงตัวไปก่อน”

“อยากฝากขอกำลังใจ ผลงานเพลงนี้ ที่ก็ไม่รู้จะเป็นแรงก้อนสุดท้ายหรือเปล่าที่ทำ ถ้าผลตอบรับดีก็อาจจะได้ทำต่อ สู้ต่อ ถ้ามันไม่ดีต้องพิจารณาเพราะทุนทรัพย์เริ่มไปหมดแล้ว ขอกำลังใจสำหรับผลงานเพลงนี้ น้องพร้อมเจ็บ ออนแอร์ให้ชมวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ 2564 ทางช่องยูทูป นุช วิลาวัลย์ chanel”