รีเซต

ขอให้ดราม่าเรื่องแฟนเป็นกรณีศึกษา ดิว อริสรา ฟาดนิ่ม ทุกสิ่งบ่งบอกความเป็นคุณ

ขอให้ดราม่าเรื่องแฟนเป็นกรณีศึกษา ดิว อริสรา ฟาดนิ่ม ทุกสิ่งบ่งบอกความเป็นคุณ
มติชน
11 มีนาคม 2564 ( 18:32 )
206

 

“จริงๆรายละเอียดมันยาวมาก” ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ออกตัวทันทีที่ถูกถามถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้เหมือนๆเธอจะมีปัญหากับแฟนหนุ่ม

จากนั้นดิวที่ไปร่วมงานเปิดตัวคลับสุขภาพ Mariza Heath Society ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็บอกต่อ “เอาเป็นว่าตอนนี้เรากลับมาปกติเหมือนเดิมแล้ว”

“ถ้าถามว่าเหตุมันเกิดจากการเข้าใจผิดกันไหม มันเกิดจากประเด็นเล็กๆน้อยๆ  คือมีคนไปคอมเมนต์อะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าจะให้พูด ดิวอยากให้เอากรณีดิวเป็นกรณีศึกษาไปเลยก็ได้ คือบางคอมเมนต์ทางบ้านต่างๆ ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร อยากสวมวิญญาณความเป็นนักสืบ มาคอมเมนต์กันต่างๆนานา ก็ทำให้เกิดประเด็นขึ้นได้ ดิวอยากจะฝากบอกเลยว่าหลังจากนี้ใครก็ตาม ถ้ายังไม่รู้เรื่องของใครจริง อย่าเพิ่งพูดอะไร ไว้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยพูดดีกว่า”

ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เขาโกรธไหม ดิวบอก “ก็คงโกรธค่ะ”

“เขาอาจจะยังไม่เคยชินกับอะไรตรงนี้เท่าไหร่ ไปอ่านแล้วตัดสิน เข้าใจตามนั้นไป”

การที่คนเข้าใจผิดเรื่องซื้อของขวัญให้เหมือนกัน?

“นั่นแหละ ดิวรู้สึกว่าถ้าเป็นคำว่าเข้าใจผิด ทีหลังก็เข้าใจให้ถูกก่อนค่อยคอมเมนต์ คือในส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะบอกในรายการช่องยูทูบค่ะ กับข่าวที่ออกมาว่านอกใจ คือถ้านอกใจก็คงไม่กลับไปดีกันหรอก”

ในส่วนสถานะกับ ไผ่ วันพอยท์ ดิวบอก คือความสัมพันธ์ของคน 2 คน ที่เลิกรากันไปแล้ว เป็นการเลิกกันด้วยดี

“ซึ่งในความสัมพันธ์จะมีหลายระดับแหละ ว่าจะดีประมาณไหนๆ แต่ของดิวกับเขาคือดีมาก ก็มีคุยกันเรื่องข่าว เขามีให้สัมภาษณ์เหมือนกัน ตอบไปแล้วในส่วนของเขา”

“คนของเราเขาก็เข้าใจ เข้าใจมาก เข้าใจตั้งแต่วันแรกแล้วค่ะ เข้าใจตั้งแต่ก่อนที่จะมีปัญหาอยู่แล้ว ถามว่าตอนเขาโพสต์ตกใจไหม ก็ตกใจนะ ก็แรงแหละ”

เรื่องของขวัญที่เหมือนกัน ดิวบอก “มันคือสิ่งที่ทุกคนเข้าใจกันไปเอง ตัวพี่ไผ่เขาก็ออกมาพูดแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวกับดิว ดิวไม่ได้เป็นคนให้”

“หลังจากนี้ถ้าคนเห็นแหวนคาร์เทียร์ต้องเป็นดิวทุกคนเลยใช่ไหม”

เธอยังบอกด้วยว่าตอนนี้เธอกับเขากลับมาแฮปปี้ ส่วนที่เห็นว่ามีการอุ้มกันขึ้นรถนั้น “ไม่ได้หวานอะไรเลย แค่แกล้งกันเล่นๆ มันเป็นแค่บันไดที่ดิวจะเดินลงแล้วใส่ส้นสูง เขาเลยอุ้มและรถก็อยู่ใกล้ๆ แต่ก็งงคนแซวนะ พอหวานก็แซว พอมีประเด็นนิดนึงก็หาเรื่องให้ตีกัน ดีจังเลย (ยิ้ม)”

ดิวยังบอกด้วยว่า “ถ้าจะให้พูดตรงๆ ในคอมเมนต์ต่างๆนานาที่พยายามทำให้เราเข้าใจผิดกัน มันก็มีข้อดีนะ มันไม่ได้ทำให้เราเข้าใจผิดกัน แต่สุดท้ายมันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น เข้าใจในไลฟ์สไตล์มากขึ้น เข้าใจในโลกที่ดิวอยู่มากขึ้น ว่าโลกที่ดิวอยู่ค่อนข้างโหดร้ายนิดนึง หมายถึงว่าทุกคนตัดสินกันไวมาก ก็ไม่ได้อยากโทษใคร แต่ก็ขอบคุณแล้วกัน มันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น”

กับแฟนคนนี้ดิวบอกว่า เคยเจอกันมานานมากแล้ว แต่คบกันจริงๆไม่นานนัก

“หลักเดือนเอง ถามว่าทำไมเปิดตัวคนนี้ จริงๆดิวไม่ได้กะว่าจะเปิดตัว แค่ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้เปิด ไม่ได้ปิด แต่มันอาจจะทำให้ใครรู้สึกว่าเราเปิดตัว เราคบใครก็ต้องให้เกียรติเขาค่ะ”

“ประทับใจอะไรในตัวเขาเหรอ คือเขาก็เพิ่งมาเจอโลกใบใหม่ เขาก็ให้โอกาสทั้งดิวและเราทั้งคู่ได้เดินต่อไป”

กับคนๆนี้ ดิวบอกว่าเป็นคนที่มีความเข้าใจกัน และคุยกันด้วยเหตุผลได้

เรื่องที่คนมองว่าเขาเป็นสายเปย์ ดิวบอก “ก็ปกตินะคะ”

“คือหมายความว่าไม่ได้เปย์ หรือว่าไม่ได้ไม่เปย์ ดิวว่าคนเป็นแฟนกัน แฟนเราก็อยากดูแลเรา ไม่ใช่แค่แฟนคนนี้หรอก ที่ผ่านมาไม่ว่าใคร ทุกคนก็ดูแลดิวดีหมดค่ะ”

เรื่องกระแสที่หาว่าคบแต่แฟนไฮโซ ดิวบอก “เราเป็นผู้หญิง กว่าจะมีวันนี้เราก็เหนื่อย ดิวไม่ได้เลือกใครจากที่ว่าต้องเป็นไฮโซ ต้องมีเงินหรอก ก็เลือกว่าใครที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ คลิก เหมาะสม อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ส่วนเรื่องเงินทองมันคือกำไรของชีวิตเราแหละ ซึ่งมันก็คือความโชคดี”

กับการเป็นแฟนของดิว อริสรา เธอบอกว่าเขาเองก็ยังไม่ชิน

 

“เขายังบอกเลยว่าถ้าวันนี้มาสัมภาษณ์นักข่าวให้ตอบว่า ‘โน คอมมเนต์’ ได้ไหม (หัวเราะ)”

“เขาแค่รู้สึกว่าอยากให้มันจบ ก็คือจบไป เขาไม่รู้ไง ซึ่งเขาก็ค่อยๆปรับตัว ตอนมีข่าว เขาก็เครียดนะ เขาส่งข้อความไปหาเพจด้วยว่าลบได้ไหม”

สำหรับคนที่เข้ามาคอมเมนต์ต่างๆนานา ดิวก็ว่า เธอไม่ได้อยากบอกให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนอะไร

อย่างไรก็ดี “ดิวอยากบอกว่า ถ้าเป็นตัวดิว ก่อนที่ดิวจะพูดอะไร หรือก่อนที่ดิวจะแสดงความคิดเห็นอะไร ดิวจะไม่ทำอะไรส่งๆไป ผลกระทบมันอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา แต่มันจะบ่งบอกให้รู้ว่าจริงๆแล้วเราเป็นคนทำการบ้านดีแค่ไหน ฉลาดมากน้อยแค่ไหน เป็นคนยังไง แล้วสุดท้ายมันจะทำให้เห็นว่าคุณค่าในความเป็นคนมีมากน้อยแค่ไหน ในการแคร์คนอื่น ดังนั้นคิดก่อน ชัวร์ก่อน แล้วค่อยพูดดีกว่า”