รีเซต

บทละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน ตอนที่ 2

บทละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน ตอนที่ 2
5 กุมภาพันธ์ 2557 ( 17:47 )
7.5K

บทละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2
 

ในป่า ตะวันกับแย้กำลังจะแย่ เดชาและพวกรุมล้อม ตะวันดูเหมือนไร้ทางรอดแน่ๆ แต่แล้วพลันแสงไฟรถส่าดแว่บมาจากถนน

แย้ตะโกนลั่น “เฮ้ย! ตำรวจมา ตำรวจมา!”

เดชา และเหล่าลูกน้องชะงักไปในทันที รีบเก็บอาวุธของตัวเอง

ตำรวจขับรถเข้ามา แย้จูงมือตะวันวิ่งไปหา แย้สีหน้าแบบว่ารอดตาย เดชา ล่ำ แหลม เดินออกมา สีหน้าไม่มีพิรุธแต่อย่างใด ตำรวจสองนายลงจากรถ

“อ้าว คุณตะวัน คุณเดชา มาทำอะไรกันเหรอครับ”

“ไอ้ลูกน้องผม มันอยากมาหาของป่า ผมเซ็งๆ อยู่พอดี ก็เลยออกมาสูดอากาศด้วย” เดชาว่า

“มากันครบทีมขนาดนี้ แน่ใจเหรอว่าแค่มาหาของป่า!”

แย้ดึงตะวันออกไปกระซิบ “หลักฐานเอาผิดก็ไม่มี เดี๋ยวจะซวยเปล่าๆ ไปกันเหอะลูกพี่”

“ถ้าคุณตำรวจไม่เชื่อ แล้วกลัวว่าผมจะทำเรื่องผิดกฏหมาย อยากจะค้นหาหลักฐานก็เชิญ รถผมจอดอยู่ทางนั้น”

“ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตนะครับ”

“ล่ำ พาคุณตำรวจไป”

ล่ำ เดินนำตำรวจทั้งสองนายเดินออกไป เดชาจ้องหน้าตะวันอย่างอาฆาตๆ แย้รีบดึงตะวันออกไป

“ไปเหอะลูกพี่ ไปได้แล้ว”

แย้ดึงตะวันไปที่รถ สักพักรถก็ขับออกไป เดชา แหลม มองไปทางตะวันอย่างฝากแค้น

“โชคดีนะครับเสี่ย ที่คืนนี้เราแค่มาดูลาดเลา” 

“แต่ไม่ใช่โชคดีของไอ้ตะวันแน่ ถ้ามันยังไม่เลิกเป็นศัตรูของฉัน มันได้โดนดีแน่!”

 

ที่บริเวณหน้าโรงเลี้ยงหมู ประตูโรงเลี้ยงหมูหักพัง ภายในเห็นหมูบางส่วนถูกจับกลับมาได้แล้ว แย้และคนงานบางส่วนยังวิ่งตามไล่ตะครุบจับลูกหมูอยู่ ตะวันตวาดลั่น

“คุณต้องรับผิดชอบ!!!” โรสรินเมินหน้า ทำเป็นไม่เห็น

“ทรัพย์สินของไร่ตะวันเสียหายขนาดนี้ ยังมาบอกว่าจะรีบไปหาหมอรักษาฝ้า”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจทำ แล้วฉันก็เปลี่ยนใจไม่ออกไปแล้วด้วย ฉันไม่ผิด!” โรสรินลอยหน้า

ชาญหาว “เอ้าๆ จะว่าความ ตัดสินคดีอะไรกัน ไว้วันพรุ่งนี้ได้มั้ย”

“จริงด้วยพี่ตะวัน คืนนี้พี่โรสเค้าคงไม่มีแรงออกฤทธิ์อะไรแล้วล่ะ บางทีพรุ่งนี้อาจจะสำนึกได้เองก็ได้นะคะ” น้ำค้างกระซิบ

ตะวันเหลือบมองโรสรินที่ยังทำเมินไม่ยอมมองความเสียหายตรงหน้า  ส่วนโรสรินในขณะที่ทำหน้าเชิด ก็แอบเอามือแตะจุดด่างดำบนใบหน้าอย่างกังวล อาทิตย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะวัน จับตามองโรสริน ที่แตะใบหน้าตัวเองอยู่ตลอด  อาทิตย์ครุ่นคิดบางอย่างในใจเหมือนอยากจะช่วยโรสริน

 

ภายในบ้านพัก โรสรินนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงอย่างไม่สบายทั้งกายและใจ 

“นี่เหรอ… ชีวิตคุณหนูโรส ไม่อยากเชื่อ…ไม่อยากจะเชื่อ!”

ทันใดก็มีเงาบางอย่างวูบผ่านม่านหน้าต่างไป โรสรินชะงัก สัมผัสได้ว่ามีอะไรแว๊บๆปลายสายตา 

พลันหมาก็ดันส่งเสียงหอนโหยหวนขึ้นมาอีก  บรู๋วววววว  โรสรินดึงผ้าห่มมาแนบตัวมากขึ้น 

“ไม่ เราตาฝาด ไม่มี ไม่มี ผีไม่มีในโลก!” 

โรสรินตะโกนถาม “อึ่งเหรอ นั่นเธอรึเปล่า”

มีเสียงเคาะกระจกดังขึ้นที่หน้าต่างข้างนอก ก็อก ก็อก! โรสรินเอาผ้าห่มมาคลุมโปงทันที 

“นะโมตัสสะ นะโม โลตัส แมคโคร ตัสสะ ไม่ใช่.. นะโมตัสสะ โอ๊ย แล้วมันท่องยังไงต่อเนี่ย ทำไมฉันไม่หัดสวดมนต์อย่างที่ปู่สอนนะ!”

กระจกหน้าต่างถูกดันเปิดออกดัง ปึง! โรสอดลืมตามองไม่ได้ เห็นมือๆหนึ่งยื่นเข้ามาพอดี 

“มือผี!!!! มือผี   กรี๊ดดดดด !!!! ผีหลอก!!!”

 

ภายในห้องนอนตะวัน ตะวันทิ้งตัวอยู่บนเตียงด้วยความเพลียจัด เสียงโรสรินกรี๊ดดังลั่น ตะวันได้ยินแต่ไม่สนใจ 

“เอา เชิญเลย เอาให้เต็มที่    มันอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย” 

ตะวันตลบผ้าห่มมาปิดหู กดหัวตัวเองแน่นกับหมอน!

 

ภายในห้องนอนโรสริน โรสรินซุกตัวอยู่ในโปงแน่น ไม่กล้าลืมตา ปากก็ร้องเสียงสั่นอย่างกลัวสุดๆ 

“อย่ามาหลอกหลอนกันเลย” 

อึ่งยิ้มแป้น ยื่นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ให้

“ไม่ต้องกลัวนะพี่นางฟ้า อึ่งเอง ตะกี๊ลืมเอาเสื้อกับกางเกงมาให้ เป็นของเก่าของพี่ตะวันนะ พี่ตะวันให้เอามาให้พี่นางฟ้า”

“ห๊า เอาของใช้แล้วมาให้ฉันใส่เนี่ยนะ ไอ้ตะวันบ้า อ้อ ฉันชื่อโรสริน เรียกนางฟ้าอยู่ได้”

“ก็พี่สวยยั๊งกะไม่ใช่คน เอ๊ย อึ่งหมายถึงพี่สวยอย่างกับนางฟ้าน่ะ เกือบลืม! คุณทิตย์ เค้ามีของจะให้พี่นางฟ้าแน่ะ”

อึ่งยิ้มแล้วกระแซะอาทิตย์ อาทิตย์แบมือให้โรสดูตลับอะไรบางอย่างในมือ

“ครีมสมุนไพรแก้สิวฝ้า สูตรปู่ชาญจ้า คุณทิตย์เค้ากลัวพี่นางฟ้าไม่สวยมั้ง ลองใช้ดูสิ”

โรสรินเบ้หน้า “ครีมกระจอก”

“ไม่กระจอกนะ ไม่เชื่อก็ลองดูก่อนสิ”

“นายติสต์! ทำไมต้องทำดีกับฉัน ต้องการอะไร”

อาทิตย์ไม่ตอบ อึ่งช่วยพูดให้

“ไม่ต้องถามให้เมื่อยร๊อก คุณทิตย์ไม่ยอมพูดกับใคร แต่ถ้าอยู่ไปเรื่อยๆ ใช้กระแสจิตสื่อสารจะรู้เรื่องเอง” อึ่งหาว”อึ่งไปนอนจริงๆ แล้วนะคะพี่นางฟ้า ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกมาได้เล้ย”

โรสรินพยักหน้า อึ่งกำลังลากอาทิตย์ออกไปด้วย  โรสรินคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ร้องเรียก

“เดี๋ยว ฉันยังไม่ง่วง เรามาทำอะไรสนุกๆ กันมั้ย”

 อึ่งและอาทิตย์หันมองโรสรินอย่างสงสัยๆ 

            “อย่างน้อยก็ช่วยสร้างความบันเทิงให้ฉันอยู่ในไร่ที่แสนน่าเบื่อนี่ได้”

            “พี่นางฟ้าจะทำอะไรเหรอ บอกอึ่งมาได้เลย อึ่งจัดให้”

โรสรินยิ้มๆ แล้วกระซิบกับอึ่งและอาทิตย์ อึ่งและอาทิตย์ถึงกับตาโต แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน!!!

 

คืนนั้นที่แปลงกุหลาบ พื้นดินถูกถางให้มีช่องเดินราวกับเป็นเวทีแคทวอล์ก ตามทางเดินปูเศษผ้าไว้

อึ่งใส่รองเท้าส้นสูง เดินกระเผลกอย่างไม่ถนัด ทำท่ามั่นใจ ราวกับเป็นนางแบบกำลังเดินแบบบนแคทวอล์

            “ถึงเวลาเปิดงาน “บ้านไร่ แฟชั่นวีค” แล้วจ้า!!”

            อาทิตย์ที่โดนอึ่งลากมาให้เดินแบบ เดินตามอึ่งมา พร้อมหยุดโพสท่าหล่อ คนงานในไร่ล้วนโดนโรส

รินจับแต่งหน้าหมด ทยอยออกมาเดินแบบทีละคนสองคน ทุกคนโพสท่าเริ่ดมาก ส่วนโรสรินออกมาเป็นคน

สุดท้ายในชุดผ้าถุงที่ถูกเลิ่กขึ้นโชว์ต้นขา เสื้อคอกระเช้าถูกผูกเอวโชว์หน้าท้องแบนราบ ดูเซ็กซี่มาก โพสท่าจิก

เท้าเดินแบบ

             “ฟินาเล่!!”

แย้ในชุดผ้าขาวม้า ปะแป้งขาวว่อก เดินผิวปากชิลๆ เข้ามา แย้หันไปมองเห็นอาทิตย์ อึ่ง และคนงานกำลังโพสท่ากันอยู่ก็แทบช๊อก

            “แม่เจ้า!!! เพี้ยนอะไรกันวะเนี่ย!!!”

 

          ตะวันกำลังปิดไฟบ้านเตรียมจะเข้านอน แย้พรวดเข้ามาหาอย่างตกใจ

            “ลูกพี่ๆ ลูกพี่จ๋างานเข้าแล้วจ้า”

“มีอะไร ตกใจอย่างกับยัยโรสก่อเรื่องอะไรเข้าอีก”

“เป๊ะเลยลูกพี่ มีจิตสัมผัสรึเปล่าเนี่ย!”

“ยัยโรส!!”

ตะวันผลุนผันเดินออกไป แย้ตามไปติดๆ ชาญเดินผ่านมามองตามตะวันกับแย้ที่พรวดพราดออกไปเหมือนมีเรื่องใหญ่อย่างสงสัย

 

          ที่แปลงกุหลาบ โรสรินกำลังเดินแบบราวกับเป็นนางแบบมืออาชีพ อึ่ง อาทิตย์ คนงาน ถึงกับมองโรส

รินที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดินตาค้าง อึ่ง อาทิตย์และคนงานปรบมือกันสนั่นหวั่นไหว โรสรินจิกตาโพสท่าเซ็กซี่ 

ยิ้มมีความสุข ทันใดนั้นตะวันกับแย้ก็พรวดเข้ามา

“โรสริน!! ทำบ้าอะไรของเธอ”

ทุกคนตกใจถอยกรูดอย่างกลัวๆ ที่เห็นตะวันโมโห ยกเว้นโรสรินที่ไม่เกรงกลัว แต่กลับเดินไปหาตะวัน

ตะวันจ้องโรสรินอย่างชื่นชม

“มองไร? ชอบล่ะสิ!”

 “ยัยโรส” ตะวันถอนหายใจเฮือก

“เสียดายนะที่เมื่อกี๊นายไม่เห็นฉันเดินแบบ บอกได้เลยว่า เป๊ะเว่อร์”

“งี่เง่าที่สุด ไร้สาระคนเดียวไม่พอยังจะชวนคนอื่นงี่เง่าตามไปด้วย”

“อย่าทำให้ฉันจี๊ดสสสส์นะ! ฉันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร”

“แต่ไอ้ดินที่คุณย่ำอยู่มันแปลงกุหลาบของผม แล้วเป็นบ้าอะไรถึงถางกุหลาบออก ดอกไม้ตายหมดแล้ว นี่เหรอไม่สร้างความเดือดร้อน” ตะวันมองไปที่ทุกคน “ผมจะหักเงินเดือนทุกคน โทษฐานที่บ้าไปกับยัยนี่ด้วย” หันกลับมาที่โรสริน “คุณนี่มันเกินเยียวยาจริงๆ”

โรสรินจ้องหน้าตะวันอย่างไม่พอใจ 

“ฉันไม่มีสิทธิ์ทำอะไรนอกจากให้นายชี้นิ้วสั่งเลยใช่มั้ย เผด็จการมากไปแล้วนะ นายไม่เข้าใจฉันบ้างเลย”

ตะวันทำท่าจะฮึดฮัดใส่ ชาญเดินตาม เข้ามาขวาง

“พอๆๆ แยกย้ายๆ จบกันแค่นี้ ดึกแล้วไปนอนกันได้แล้วไป”

คนงานแยกย้ายกันเดินออกไป โรสรินจ้องหน้าตะวันอย่างไม่พอใจแล้วเชิ่ดหน้าเดินออกไป

“เดี๋ยวคุณ!!!

ชาญเห็นตะวันกำลังเดินตามโรสรินไป  จึงคว้าแขนไว้

“เฮ้ย พอแล้ว เข้าใจหนูโรสเค้าบ้าง จะให้เค้าเป็นแบบที่ตัวเองต้องการมันไม่ได้หรอก อะไรที่มันเป็นความสุขของเค้าก็ยอมๆ บ้างเถอะน่า”

“ช่ายยยย พี่ตะวันเนี่ยไม่เข้าใจผู้หญิงเลย”

ตะวันหันขวับมามอง อึ่งจ๋อยวูบ “อูยยยย…”

“แค่วันแรกก็ปวดหัวไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ถ้ายัยนั่นไม่เลิกออกฤทธิ์อย่าขอให้มาช่วยปราบก็แล้วกันนะครับปู่”

แล้วตะวันก็เดินออกไปอย่างหงุดหงิด ชาญมองตามอย่างเป็นห่วงๆ อึ่งสะกิดปู่ 

“ปู่ๆ อึ่งสวยไหม?” ปู่ชาญเขกกระโหลกอึ่งดัง โป๊ก!! แทนคำตอบ

 

ภายในห้องนอน โรสรินนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หงุดหงิดตะวันไม่หาย

“ฉันไม่เคยเจอใครที่ทำให้ฉันจี๊ดดดดดส์ขนาดนี้มาก่อน  ไอ้บ้าตะวัน นายกับฉันได้เป็นศัตรูกันร้อยชาติแน่!”

โรสรินเหล่ๆกระปุกครีมที่อาทิตย์เอามาให้ ท่าทางลังเลหนัก

“นี่เราสิ้นคิดจนต้องใช้ครีมกระจอก นี่จริงๆ เหรอ!”

โรสรินกระแทกกระปุกครีมลง ว่าจะไม่เอา..แต่พอเห็นจุดด่างดำบนหน้า

“ครีมแก้ฝ้า นายตะวันก็เอาไปทิ้งแล้ว โอ๊ย! จี๊ดสสส์!”

โรสรินหยิบกระปุกครีมบ้านๆขึ้นมาอีกครั้ง

“ถ้าพรุ่งนี้ผิวหน้าฉันเป็นอะไรล่ะก็.. ฉันจะบีบคอแกให้ตายคามือเลยไอ้เด็กบ้า!!

โรสรินเสี่ยงลองเอาครีมแต้มจุดด่างดำด้วยความหวาดเสียว!

 

            เสียงไก่ขัน ภายในห้องนอน โรสรินเอามือปิดหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างลุ้นสุดๆ

“หาย หาย หาย ต้องหาย… ต้องหาย” 

โรสรินค่อยๆ เลื่อนมือออกจากหน้า โรสรินเปิกตาโพลง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ตะปบหน้าตัวเอง

“ไม่น่าเชื่อ หาย!! หายจริงๆ ด้วย !!”

โรสกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ แล้วก็ผลักประตู วิ่งออกไปนอกห้อง

 

ที่โต๊ะอาหาร อึ่งและอาทิตย์กำลังแกะถุงน้ำเต้าหู้อยู่  โรสรินอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ต กางเกงยีนส์เก่าของตะวัน พรวดเข้ามายิ้มกว้างอย่างดีใจสุดๆ

“Thank you So much!” โรสรินเข้าไปหยิกแก้มอึ่งและอาทิตย์อย่างเอ็นดู

“ครีมที่ฉันสั่งมาจากแพรีส ยังใช้ไม่ดีเท่านี้เลย”

“ขอบคุณจ้ะ แต่ที่จริงต้องขอบคุณ คุณทิตย์ถึงจะถูก เค้าดูห่วงพี่นางฟ้ามากนะ”

“ขอบใจนะนายติสต์“

“เค้าชื่ออาทิตย์ ไม่ใช่ติสต์”

“ฉันจะเรียกติสต์ ใครจะทำไม?”

“ไม่ทำไมหรอกจ้า พี่นางฟ้าจ๋า อึ่งขอเป็นน้องสาวพี่ได้มั้ย”

“จะคิดดูก่อนแล้วกัน ถ้าเธอทำตัวดีๆ กับฉัน คอยช่วยเหลือฉันอยู่ตลอดๆ ฉันอาจจะให้เธอเป็นน้องสาวก็ได้”

“จริงๆ นะ พี่นางฟ้าห้ามโกหกด้วย ถ้างั้นอึ่งจะดีกับพี่นางฟ้าทู๊กอย่างเลย”

“ดีมาก”

โรสรินกำลังจะเดินออกไป แล้วก็หันกลับมา หยิบถุงน้ำเต้าหู้มาแกะและเทใส่ถ้วยให้อึ่งและอาทิตย์

“จดจำวันนี้ไว้ โรสรินไม่เคยบริการใคร แต่กับเธอสองคนเป็นข้อยกเว้น  เป็นการตอบแทนครีมหน้าเด้งมหัศจรรย์”

“ใจดีที่ซู๊ดดดดด เลย” โรสรินยิ้มรับอย่างน่ารัก “นางฟ้าก็งี้แหล่ะจ้ะ”

ชาญกับน้ำค้างแอบดูอยู่ที่มุมเสา ต่างประหลาดใจ

“ยัยอึ่งกับอาทิตย์ทำให้คุณโรสปลื้มได้ไงเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ”

“เห็นหนูโรสอารมณ์ดีขึ้นแบบเนี๊ยะ ปู่ค่อยโล่งใจ”

ตะวันเดินผ่ากลางออกมา ไปคว้าแขนโรสไว้ทันที ทำลายฝันหวานของทุกคน

“อารมณ์ดีขึ้นก็ดีแล้ว จะได้มีแรงไปทำงาน!”

โรสรินชะงัก ทุกคนเหวอกันหมด 

“โอ๊ย ปล่อย ปล่อยฉัน” 

อึ่งตีตะวัน “พี่ตะวันปล่อยพี่นางฟ้านะ”

“นางฟ้าที่ไหน นางมารชัดๆ”

“ใม่ใช่ นางฟ้าต่างหาก แล้วก็เป็นนางฟ้าก็ใจดีด้วย พี่ตะวันปล่อยพี่นางฟ้า”

ตะวันถอนใจอย่างรำคาญ ลากโรสรินออกไปเลย ”อย่า โอ๊ย นายจะพาฉันไปไหนห๊า ปล๊อยยย”

ทุกคนมองไปทางโรสรินอย่างเอาใจช่วย

 

ตะวันถูลู่ถูกังลากโรสรินเข้าไปในไร่ 

“โอ๊ย นายจะพาฉันไปไหนห๊า ปล๊อยยย”

ตลอดทางที่ถูกลากมา กางเกงหลวมๆของโรสรินค่อยๆร่นหลุดลงมา จนโรสรินต้องใช้มือดึงขอบกางเกงไว้ 

“เดี๋ยวๆๆๆ กางเกงๆ กางเกงจะหลุด… จะหลุดแล้ว!!”

ตะวันรำคาญสุดๆ  มองไปรอบๆ เห็นเชือกฟางอยู่ จึงดึงออกมาเพื่อผูกกางเกงให้

โรสรินตกใจคว้ากางเกงหมับ “นี่!นายจะทำอะไร!!!”

ตะวันยิ้มเยาะประมาณว่าอยากดูตายล่ะ แต่โรสรินยิ่งตกใจนึกว่าตะวันหื่น “มานี่”

โรสรินดิ้นหนี ตะวันไม่คิดอะไรจับรวบและดึงกางเกงโรสรินทางด้านหลัง

“อย่านะ นี่นาย ปล่อยฉัน!”

ตะวันอยู่ด้านหลัง พูดข้างหู “กางเกงจะหลุดก้นแล้วไม่ใช่เหรอ  เดี๋ยวผูกให้!”

ตะวันจัดการผูกกางเกงให้โรสริน โรสรินหน้าอี๋สุดๆ ที่ตะวันอยู่ใกล้ชิดมากๆ

“ผูกเป็นโบว์ให้สวยๆ ด้วยนะ!”

ตะวันรำคาญ ผูกเชือกจนเสร็จ “เอ้า ไม่หลุดแล้ว!” 

ตะวันจับโรสรินหันมาแล้วพูดใส่หน้า “ผมกลัวหมูจะเป็นตากุ้งยิง!!”

โรสรินงง “หมู?!  หมายความว่ายังไง?”

 

 

หน้าโรงเลี้ยงหมู คนงานทำงานกันอย่างสโลสเล โรสรินยืนมองตะวันอย่างอึ้งๆ 

“ให้ฉันกวาดคอกให้เจ้าพวกนี้เนี่ยนะ !! ชาติหน้า”

“ชาตินี้!”

“ฉันไม่ทำ อี๋!”

ตะวันหันไปพูดกับคนงาน 

“ทุกคนฉันขอโทษด้วยนะที่เมื่อวานต้องมาเหนื่อยกันทั้งคืน กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว ฉันจะคิดค่าแรงให้พิเศษอีก 2 งาน” พวกคนงานดีใจกันใหญ่

“แล้วคุณโรสริน จะเป็นคนทำความสะอาดโรงเลี้ยงหมูแทน“คนงานเฮยิ่งกว่าเดิม 

“นายไม่มีทางบังคับฉันได้หรอก!”

โรสรินหันหลังจะเดินหนี พวกคนงานที่นั่งอยู่ลุกขึ้นและมองโรสรินอย่างไม่ค่อยพอใจ โรสรินถึงกับชะงัก ตะวันยิ้ม

“พวกเค้าคงไม่ยอมให้คุณเดินตัวปลิวออกไปเฉยๆ โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยแน่ๆ”

โรสรินมองไปที่โรงเลี้ยงหมูที มองไปทางคนงานอีกที ก็รู้ว่าไม่มีทางเลือก โรสรินถอนใจเฮือก เฮ้อ….

 

 

ระหว่างทางไปไร่ตะวัน พีระกำลังขับรถมุ่งหน้ามาหาโรสรินอย่างร้อนใจ พร้อมกับอุษาวดี

“ป่านนี้ไม่รู้โรซี่จะเป็นไงบ้าง! เราน่าจะมากันตั้งแต่เมื่อคืน”

“ยัยโรสน่ะไม่ใช่คนที่ใครจะมาเอาเปรียบได้ง่ายๆ อยู่แล้ว”

“ก็ไม่แน่ เรารู้ใจคนไม่ได้หรอก”

“เอ้อพี่พี ปู่ณรงค์บอกว่า ถ้าพี่มาตามยัยโรสกลับปู่จะจี๊ดดส์ไม่ใช่เหรอ”

“พี่ยอมให้ปู่จี๊ดสส์ แต่พี่ไม่ยอมจ๋อย! พี่คิดถึงคุณโรซี่”

“เลิกเว่อร์ซะทีเถอะ เอ้าดูสิ เลยแล้วเนี่ย”

พีระเหยียบเบรกจนอุษาวดีเกือบหัวทิ่ม อุษาวดีค้อนพี่ชาย พีระหันมายิ้มแหยๆ เป็นทีขอโทษ แล้วรีบเลี้ยวรถเข้าไปตามทาง ที่มีป้ายปักว่า “ไร่ตะวัน” พีระขับรถเข้ามาในไร่ จนถึงถนนที่เห็นชัดว่าขรุขระมากๆ ขับรถเข้าไปไม่ได้แน่ พีระกับอุษาวดีตัดสินใจลงจากรถ

“โอ้โห ดูถนนสิ นึกว่าดาวอังคาร ขับเข้าไปมีหวังช่วงล่างรถพังยับเยิน”

“แล้วจะทำยังไงล่ะ  ถ้าต้องเดินก็ขาลากพอดี”

พีระครุ่นคิดหาทาง แล้วหันไปห็นรถอีแต๋นจอดอยู่ พร้อมกุญแจเสียบทิ้งไว้…

 

ภายในบ้านตะวัน ชาญกระสับกระส่าย

“ไอ้ตะวันมันจะใช้งานหนูโรสหนักเกินรึเปล่า หนูโรสแกก็ออกจะบอบบางอย่างนั้น”

อึ่งส่งกล้องส่องทางไกลให้ชาญ “ใช้นี่ดีกว่าจ้าปู่ ชัดกว่ากันเย๊อะ”

“เออ ขอบใจ แบบนี้ค่อยใช้ได้หน่อย” ชาญชะงัก “เฮ้ย ! ปู่ไม่ใช่พวกสาระแนนาโว้ย”

“ก็ดูๆซะให้หายเครียดไงคะปู่ ดีกว่าอกแตกตาย” น้ำค้างพูดพลางจัดดอกไม้ไปด้วย

“เฮ้อ ตั้งใจให้เค้ามาเป็นคู่กันแต่ดันมาเป็นคู่กัดซะงั้น“

น้ำค้างหันไปพยักหน้ากับอึ่ง “เนอะ”

“ปู่มั่นใจ ตะวันกับหนูโรส เค้าต้องเป็นคู่แท้กัน”

ไม่ทันไร มีเสียงพีระดังมาจากหน้าบ้าน “โรซี่ โรซี่ คุณอยู่นี่รึเปล่า โรซี่ !!

พีระกับอุษาวดีเดินเข้ามา ชาญ น้ำค้าง อึ่งพากันแปลกใจ ใครมา!!!

 

พีระขับรถอีแต๋นเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านตะวัน อุษาวดียืนตัวสั่นๆ อยู่หลังรถ พีระตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน อุษาวดีมองไปรอบๆ ยังไม่เห็นใครแถวนั้น

“โรซี่.. คุณอยู่รึเปล่า โรซี่ โรซี่ ที่รักจ๋า ยู้ฮู  แวร์ อาร์ ยู๊ “

ชาญ น้ำค้าง และอึ่ง เดินเข้ามาหา 

“โอ้โห คนกรุงเข้าชอบขึ้นรถอีแต๋นกันเหรอ เหมือนพี่นางฟ้าเปี๊ยบเลย”

ชาญถามด้วยความตกใจ “เมื่อ.. เมื่อ.. เมื่อกี๊ นายเรียกหนูโรสว่าไงนะ!”

“ที่รักไง โรสรินเป็นแฟนผม”

ชาญ น้ำค้าง และอึ่งช็อกกับคำว่าแฟน พีระและอุษาวดีลงจากรถอีแต๋น

“ตกใจอะไรกัน ผมมาหาแฟน เค้าอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” 

 

ที่โรงเลี้ยงหมู โรสรินสวมบู้ท เอาผ้าพันหน้าตาเกือบมิดคล้ายมนุษย์อวกาศ กวาดคอกอย่างไม่เต็มใจ

ตะวันตะโกนแซว “ไม่กลัวหายใจไม่ออกตายรึไงคุ๊ณ!” 

โรสรินหน้าหงิก “ให้ใครมาเห็นคุณหนูโรสรินในสภาพนี้ ฉันขอไปเกิดใหม่ซะดีกว่า” 

“นี่! กวาดแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหนเล่า กวาดไม่เป็นเหรอ”

“ในชีวิตฉันไม่เคยจับไม้กวาดแม้แต่ครั้งเดียว” 

ตะวันเข้ามาในคอก จับไม้กวาดสาธิตให้ดู 

“นี่ จับให้มันกระชับแล้วขนไม้กวาดน่ะกดลงไปอีก กวาดลึกๆ และกวาดไปทางเดียวกันอย่างนี้”

“หรอ นู่นๆๆ ทางนู้นเลอะขี้หมูอ่ะ” โรสรินยิ้มเจ้าเล่ห์ หลอกใช้ตะวัน

“นี่ก็เขี่ยออกทางข้างแบบนี้”

โรสรินชี้ “ทางโน้นก็มี”

ตะวันเข้าไปกวาด แล้วนึกได้  “อ้าว หลอกใช้กันนี่” 

ตะวันเดินไปยื่นไม้กวาดคืนให้โรสริน โรสรินหน้าหงิก 

ตะวันควบคุมการทำงานของโรสริน ชี้ให้กวาดให้ตรงนั้นตรงนี้ พอตะวันเผลอ โรสรินทำท่าจะกวาดขยะเข้าใส่ พอตะวันหันมา โรสรินก็แกล้งทำเป็นกวาดไปตามปกติ แต่หน้ามุ่ยมากที่ไม่ได้ชำระแค้น โรสรินกวาดคอกนู้น คอกนี้ คอกนั้น พอเห็นตะวันคุยงานกับแย้ โรสรินแอบโกงกวาดไปนิดเดียว แล้วหลบออกมา ข้ามไปคอกท้ายๆเลย โรสรินยิ้มในความเจ้าเล่ห์ของตัวเอง แต่แล้วตะวันมาสะกิด เห็นนะจะบอกให้ แล้วลากโรสรินกลับไปที่คอกแรกๆใหม่ โรสรินกวาดๆๆๆด้วยความเจ็บใจ! ตะวันสาธิตการใช้สายยางฉีดน้ำล้างคอก โรสรินจับสายยางไม่ทะมัดทะแมง ตะวันสอนให้จับใหม่ โรสรินได้ที ฉีดน้ำใส่เต็มหน้าตะวัน แย้นั่งอยู่บนคอก

“อุ๊ย เต็มๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

โรสรินหันไปฉีดน้ำใส่ทั้งแย้และตะวัน แย้โดนน้ำฉีดหงายหลังร่วงลงจุกแอ่ก

“ว๊ายย ขอโทษทีนะ  ฉันยังใช้สายยางไม่คล่อง” โรสรินแก้ตัว แล้วหันหลังหนีไปฟอร์มฉีดทำความสะอาดคอก ตะวันส่ายหน้าอย่างเอือมๆ กับฤทธิ์ของโรสริน

 

อุษาวดียืนรอพีระอยู่ที่หน้าบ้านตะวัน สักพักพีระขับรถหรูของตัวเองเข้ามาจอดข้างๆ พีระลงจากรถ บ่นอุบ“ไร่ก็ใหญ่โต แทนที่จะปรับปรุงถนนทางเข้าไร่ให้ดีๆ เฮ้อ กว่าจะเอารถเข้ามาได้ อ้อมเป็นกิโล”

ชาญ น้ำค้างและอึ่ง ยืนห่างออกไป น้ำค้างมองหน้าชาญ ด้วยสีหน้าไม่เต็มใจจะทำตามคำสั่งปู่

“ปู่คะ… ไม่ทำไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้น้ำค้างไปหลอกเค้าด้วย!”

ชาญจุ๊ปากให้น้ำค้างเสียงเบาๆ “แล้วเราจะให้หมอนั่นมาพรากหนูโรสไปจากพี่ตะวันของเราเหรอ”

“แต่ว่าน้ำค้างไม่”

“งั้นปู่ไปเองก็ได้ แล้วถ้าปู่เกิด หัวใจวายขึ้นมากลางทาง ก็จองศาลาวัดให้ปู่ด้วยละกัน”

ชาญประชด ทำท่าจะเดินไปเอง จนน้ำค้างทนไม่ได้  “ก็ได้ๆ ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ!”

ชาญหันมาตบไหล่หลาน “น้ำค้าง หลานปู่ น่ารักที่สุด”

พีระเห็นปู่กับหลานคุยกันชักนาน เริ่มทนไม่ไหว เข้ามาเร่ง

“ฉันไม่มีเวลามากนะ จะพาฉันไปหาโรสได้รึยัง… ยัยหน้ามุ่ย”

“ฉันชื่อน้ำค้าง ไม่ใช่ชื่อหน้ามุ่ย”

“รีบๆไปกันซะที ถ้าบริการถูกใจ เดี๋ยวฉันทิปให้”

น้ำค้างชักโมโห “นี่คุณ ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินนะ” 

อุษาวดีรู้ว่าน้ำค้างอารมณ์ขึ้น เอาน้ำเย็นลูบ

“อย่าถือพี่ชายฉันเลยค่ะ ปากไม่ค่อยดีอย่างงี้เอง” 

พีระ สะดุ้ง “อ้าว!”

“ขอบคุณคุณน้ำค้างมากนะคะ”

“ไปอึ่ง พาคุณสองคนเนี่ยไปตามหาคุณโรส ไป”  

อึ่งเดินตามน้ำค้างขึ้นรถไปอย่างงงๆ  พีระ อุษาวดี รีบขึ้นรถและตามรถของน้ำค้างไปทันที

 

 

ที่ตลาด มาลัยกำลังแต่งหน้าทาปากอยู่ที่แผงขายผลไม้ ส่องกระจกเช็คความสวย

“มองไปมองมา หน้าเหมือนนางเอกหนังไทยเหมือนกันนะเรา โฮะๆๆ”

แม่ค้าแผงข้างๆ มองอย่างหมั่นไส้ “โถ นังมาลัย อย่างเอ็งน่ะ นางร้ายมากกว่า”

“พูดให้มันดีๆ นะ ทั้งตลาดนี่มีใครสวยและนิสัยดีกว่าฉันรึไงห๊า”

แม่ค้าแผงข้างๆซุบซิบกับแม่ค้าแผงถัดไป “เยอะแยะ ถมเถไป”

มาลีเดินถือต้นกล้าเข้ามาที่แผงขายผลไม้ “เฮ้ยๆๆๆ ลูกข้าใครอย่าแตะโว้ย”

“เอามันเลยแม่ พวกมันหาว่าฉันร้าย”

“ก็จริงนี่หว่า”

“ไม่ต้องไปฟังพวกปากหอยปากปู” 

มาลียื่นต้นไม้ให้ “เอ้า เอาไปให้คุณตะวันไป รายนั้นเค้าชอบต้นไม้ใบหญ้า เอาไปให้เค้าทุกๆ วัน จากต้นไม้มันจะได้กลายเป็นต้นรัก”

“อ๊ายยย คุณแม่ขา พูดถูกใจจริงเชียว ถ้างั้นมาลัยไปหาสุดที่รักของมาลัยก่อนนะคะ”

“เออ เดี๋ยวแม่เฝ้าแผงให้เอง อย่าลืมนาเว้ย จับให้อยู่หมัด อย่าให้คนดีๆ รวยๆ แบบนั้น หลุดมือไปได้ เข้าใจมั้ย เราสองแม่ลูกจะได้สบายกันซะที”

“จัดให้ค๊า คุณแม่ขา” มาลีมองอย่างภูมิใจในตัวลูกสาว ชาวบ้านมองสองแม่ลูกอย่างเอือมระอา

 

 

ที่มุมพักผ่อนในโรงเลี้ยงหมู โรสรินนั่งหมดสภาพ ปลดผ้าปิดหน้าเพื่อระบายความร้อน ร่นกระดุมเสื้อ พับขากางเกง ตะวันเข็นรถใส่ถังอาหารหมูมาจอด โรสรินสะดุ้ง รีบแต่งตัวให้รัดกุมขึ้น

“นี่นาย! เสียมารยาท ไม่เห็นรึไงว่าฉันโป๊อยู่”

“โป๊ตรงไหน ที่โป๊ของจริงน่ะ นู่น! น่าดูกว่าคุณเยอะ” ตะวันชี้ไปในคอก ยั่วโมโหโรสริน

“ช่าย ขาวอมชมพู อวบอึ๋มน่าเจี๊ยะที่ซู๊ดดดด” 

“ไอ้บ้า โรคจิต หาว่าหมูน่าดูกว่าฉันงั้นเหรอ”

“นี่ตกลงคุณอยากให้ผมดู หรือไม่อยากให้ดูกันแน่”

โรสรินชะงัก “ไม่อยากน่ะสิ! ปากเสียอย่างนาย มิน่าถึงต้องอยู่กับหมูกับหมา ไม่มีแฟนอยู่แบบนี้”

ตะวันสะอึก โรสรินเห็นว่าตะวันนอยด์จริงเลยยิ้มร้าย

แย้กระซิบกับตะวัน “แทงใจดำใช่มั้ยล่ะลูกพี่” ตะวันถองศอกใส่แย้ไปทีนึง แย้ตัวงอ 

“ว๊าย ตกลงนายเนี๊ยะ ไม่มีใครเอาจริงๆด้วย” โรสรินหัวเราะคิกๆคักๆ สะใจ 

“หัวเราะพอรึยัง” โรสรินส่ายหน้า 

“ยัง ยัง.. นี่ตกลงว่าจริงใช่มั้ยเนี่ย โถ นี่คงอกหักมาตลอดเลยสิท่า โอ๊ะ! แล้วยังมาโดนฉันปฏิเสธการแต่งงานอีก สลดที่สุดอ่ะ”

ตะวันทนไม่ไหว เข้าไปเอามือปิดปากโรส “ทีนี้จะหยุดพูดได้รึยัง”

โรสรินตาค้าง แล้วกัดมือตะวันเลย “โอ๊ยยยยยยยยยยยย  ปล่อย ปล่อย”

ตะวันดึงมือออกมาจนได้ โรสรินยิ้นสะใจ 

ตะวันโน้มหน้าลงไปใกล้ ขู่ “ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ย”

“อยู่แล้ว!” โรสรินกระทืบเท้าตะวัน

ตะวันสะดุ้งโหยง “โอ๊ยยยย”  โรสรินจะวิ่งหนี “จะหนีไปไหน! ยัยตัวแสบ!”

ตะวันคว้าไว้ แต่โรสรินเสียหลักจะล้ม “ว๊ายยยยยยยยยยยย”

ตะวันรั้งตัวโรสรินเข้ามากอด ใบหน้าสองคนใกล้กันมาก อีกนิดนึงจะจูบกันได้อยู่แล้ว ตะวันและโรสรินประสานตากัน มาลัยเดินลัลล้าเข้ามา

“พี่ตะวันขา มาลัยเอาต้นไม้มาฝากอีกแล้ว อยู่ไหนเอ่ยยย”

มาลัยช๊อกที่เห็นโรสรินกับตะวันเหมือนจะจูบกัน มาลัยทำกระถางร่วงมือ แตกเพล้ง!!!

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!!” ตะวันกับโรสรินสะดุ้งโหยงหันขวับไปทางเจ้าของเสียงกรี๊ดทอร์นาโด 

 

ข้างนอกโรงเลี้ยงหมู แย้อุดหูอย่างสุดทนกับพลังเสียงกรี๊ดของมาลัย

             “โอ๊ยยยย หูจะแตกแล้วโว้ย กินนกหวีดเป็นอาหารรึไงห๊า!”

              มาลัยตัวสั่น เมื่อได้เห็นภาพบาดตา รีบปรี่เข้าไปหาโรสริน แต่ตะวันรั้งไว้

              “ไม่เอาน่ามาลัย”

         “นี่เธอจะกินพี่ตะวันให้ได้เลยใช่มั้ย”

 “ตาบอดรึไง ไม่เห็นเหรอว่าใครกันแน่ที่ฉวยโอกาส”

 ตะวันสะดุ้งโหยง “ผมเนี่ยนะ ฉวยโอกาส!” 

 “ใช่! ไปแก้ตัวกับแฟนนายเถอะ ฉันไม่อยากยุ่งด้วย!”

โรสรินหนีไปทำงานต่อ เข็นรถอาหารหมูแต่เข็นไม่ไป แต่ฮึดจนรถเคลื่อนไปได้ มาลัยมาขวาง 

“แต่เธอต้องยุ่ง! ฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่ได้อ่อยพี่ตะวัน”

โรสรินดันรถพุ่งไปข้างหน้า จนมาลัยต้องรีบโดดออกมาแทบไม่ทัน

 “ว๊าย ยัย! ยัยบ้า !!”

โรสรินไม่อยากยุ่งเอามากๆ คว้าถังอาหารหมู จะเอาไปเติมที่รางให้อาหาร มาลัยวิ่งมาดักหน้าอีก

“กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง อย่านึกนะว่าอยู่ในไร่เดียวกันจะจับ พี่ตะวันได้”

 “ฉันไม่ได้นึก” โรสรินจ้องหน้ามาลัย “เพราะว่าฉันไม่ใช่อย่างเธอ!” โรสรินเดินผ่านมาลัยไป

 “อ๊ายยย!! แก กลับมานี่น๊ะ นึกว่าจะด่าฉันได้ฟรีๆงั้นเหรอ” มาลัยจะพุ่งเข้าหาโรสริน

โรสรินหันหน้ามาดุใส่ “บอกว่าอย่ามากวนใจฉันไง!”

“เธอมันก็ไม่ผิดกับสาวไซด์ไลน์ หาเหยื่อในเมืองไม่ได้ ก็เลยมารับจ๊อบที่ไร่ “

โรสรินยกถังอาหารหมูเทราดใส่มาลัยเลย !!

“กรี๊ดดดด! แก!!!!”

“หยุดๆทั้งสองคนอยาทะเลาะกัน!”

มาลัยโกยอาหารหมูขึ้นมาสาดใส่โรสริน แต่โรสรินหลบทันทำให้ตะวันที่วิ่งเข้ามาโดนอาหารหมูสาดใส่เต็มๆ

“ว๊าย พี่ตะวัน มาลัยไม่ได้ตั้งใจ ยัยนั่นแกล้งมาลัยก่อน”

ตะวันฉุนขาด คอกหมูที่ทำความสะอาดไปแล้วเลอะเทอะไปหมด!

“คุณโรสริน ไม่ต้องให้อาหารหมูแล้ว ทำความสะอาดคอกนี้ให้เรียบร้อยเหมือนเดิม!”

โรสรินเดินเข้าไปตบหน้าตะวันอย่างแร๊งงงค์!!! และวิ่งหนีออกไปด้วยน้ำตาซืม ตะวันช๊อกไป มองตามโรสรินไปอย่างอึ้งๆ

 

           โรสรินวิ่งออกมาด้วยความทั้งโมโหทั้งอัดอั้นตันใจที่สุด ตะวันวิ่งตามมาคว้าตัวโรสรินไว้

             “คุณไม่มีสิทธิ์ตบผม คุณเป็นคนก่อเรื่อง กลับไปทำความสะอาดให้เหมือนเดิมซะ!”

             โรสรินสะบัดตัวอย่างแรง “นายมันลำเอียง!” ตะวันชะงัก 

             “ยัยนั่นมาหาเรื่องฉันก่อน”

             “แล้วทำไมรู้จักอดทนบ้างล่ะ” 

             “เป็นความผิดของฉันใช่มั้ย ที่ฉันไม่ยอมให้ใครหยามศักดิ์ศรีของฉัน ฉันผิดมากใช่มั้ย!!”

              ตะวันสะอึก

             “ฉันรู้นะ ว่านายมองฉันเป็นคนไม่เอาไหน แต่ฉันก็ยังรับผิดชอบสิ่งที่ฉันทำ แต่สิ่งที่นายทำมันคืออะไร

ถ้านายแค่เพียงใช้ความลำเอียงและอคติของนายมาแกล้งฉัน นายมันทุเรศมาก!!” 

โรสรินวิ่งไปอย่างไม่แคร์ ตะวันอึ้ง! ในรอบสิบปีเพิ่งจะโดนด่าจริงเจ็บจริงจนหน้าชาขนาดนี้ !!! 

โรสรินทรุดนั่งข้างกองฟาง ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กๆเป็นครั้งแรกที่ความอดทนถึงขีดสุด ในชีวิตไม่เคยถูกกดขี่เท่านี้มาก่อน !!!

มาลัยเดินกระฟัดกระเฟียดมาแถวแปลงดอกไม้… ตะวันเดินตามติดเข้ามา

“ไม่ๆๆๆ มาลัยไม่ผิด ถ้าให้ไปขอโทษยัยคุณหนูนั่น ขอกัดลิ้นตายดีกว่า!”

“เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ตะวันแตะไหล่ มองขอร้อง “ไปขอโทษเค้าเถอะนะ”

“โถ… สมองกระทบกระเทือนรึเปล่า โดนยัยนั่นตบเต็มหน้าแทนที่จะโกรธ”

“พี่เองก็ผิดที่ใจร้ายกับเค้าก่อน แล้วมาลัยก็ผิดที่ว่าคุณโรสเค้าเสียหายแบบนั้น”

“แล้วทำไมพี่ไม่ไปขอโทษเธอเองล่ะ”

ตะวันพูดเบาๆ “เสียฟอร์มตาย”

“หื๊อ!”

“เถอะน่า ใครจะขอโทษก็เหมือนกัน คุณโรสก็อยู่ที่นี่อีกนานผูกมิตรกันไว้ดีกว่า ไม่งั้นเค้าจะหาว่าคนที่นี่ใจร้าย”

มาลัยชักใจอ่อน “มาลัยยอมขอโทษก็ได้”

 ตะวันยิ้มโล่งอก 

“แต่ยัยนั่นต้องมาขอโทษมาลัยก่อน”

ตะวันหุบยิ้ม “พี่เพิ่งรู้ว่ามาลัยเป็นคนใจดำก็วันนี้ ไม่เป็นไรไม่ต้องขอโทษก็ได้ แต่ถ้าเกลียดคุณโรสนักก็ไม่ต้องมาเหยียบไร่ตะวันให้หมางใจกันอีก ไป กลับไปได้แล้ว”

มาลัยใจเสีย “ไม่นะ ไม่เอา ไม่เห็นหน้าพี่แล้วใจจะขาด ก็ได้ๆๆๆ มาลัยยอมไปขอโทษก็ได้

ตะวันชะงักเท้า ไม่หันมามอง แต่ยิ้มอย่างโล่งอก

 

ที่กองฟาง โรสรินปาดน้ำตาทิ้ง “พวกนั้นไม่มีค่าพอที่เราต้องเสียน้ำตาให้“

โรสรินปาดน้ำตาออกจากใบหน้าจนหมด “ฮึบบบ ไม่ร้อง ไม่ร้อง.. ฮึบบบ”

โรสรินลุกขึ้น พยายามกลั้นน้ำตา มาลัยโผล่เข้ามา โรสรินตกใจ ตะวันซ่อนตัวไม่ไกลนักชะโงกหัวแอบมองอยู่

“มีอะไร”

“พี่ตะวันสั่งให้ฉันมาขอโทษเธอ”

โรสรินชะงัก “เหรอ…ถ้างั้นมัวรออะไรอยู่ล่ะ อ้อ ต้องขอโทษอย่างจริงใจ แล้วพูดให้เพราะๆ ด้วยนะ”

มาลัยเหลือบหันไปมองตะวันอย่างขอความเห็น ตะวันพยักเพยิดหน้าให้ยอมๆ ไป

มาลัยยิ้มให้ ทำหน้าเหมือนจริงใจ “ฉันขอโทษนะจ๊ะคุณโรส ยกโทษให้ฉันนะจ๊ะ”

โรสรินยิ้มพอใจ “กองๆ ไว้ตรงนั้น”

“เอ๊ะยัยหน้าว่อก!!” มาลัยถลกผ้าถุงหรือแขนเสื้อจะเอาเรื่อง “จะเอายังไงกันแน่”

โรสรินถลาไปหามาลัย พร้อมถลึงตาใส่ มาลัยตกใจกลัวเห็นโรสรินเอาจริง มาลัยผละล้มก้นจ้ำเบ้า

“โอ๊ยยยยยย”

โรสรินพูดเสียงเฉียบขาด “ฉันจะยอมรับคำขอโทษของนายตะวันคนเดียวเท่านั้น!”

ตะวันแอบมองอยู่ถึงกับอึ้งไป ยัยคุณหนูยังฤทธิ์เยอะเหมือนเดิม!

 

 

บนถนนดินลูกรัง รถน้ำค้างยังขับนำรถของพีระ ในรถน้ำค้างมีสีหน้าครุ่นคิด 

“อึ่ง จะถ่วงเวลาพวกคุณๆ ที่มาจากกรุงเทพฯ ยังไงดี”

“คนกรุงเทพไม่โง่นะ ถ้าเค้าจับได้เราซวยแน่พี่น้ำค้าง”

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง… ดูเค้าก็ไม่ใช่คนขี้โมโหอะไร”

พลันรถของพีระขับแซงแล้วปาดขวางหน้ารถน้ำค้าง น้ำค้างเหยียบเบรกเอี๊ยด

“ว๊ายยยยยยย!”

ทุกคนลงจากรถ พีระเดินเข้ามาหาน้ำค้างอย่างโมโห

“เธอจะพาฉันไปไหนกันแน่ ฉันต้องการพบตัวโรซี่”

“ก็… ก็กำลังจะพาไปหาอยู่นี่ไง”

อุษาวดีมองไปรอบๆ  “วังเวงแบบนี้เนี่ยนะ นี่ก็มาตั้งไกลแล้ว บ้านคนก็ไม่มีสักหลัง” 

“เธอจะบอกว่าโรซี่มาหาเผือกหามันอยู่แถวนี้รึไง ห๊า”

“เอ่อ คือ” 

พีระหันไปขู่ใส่อึ่ง

“เด็กดีต้องไม่โกหก บอกมาคุณโรสรินแฟนฉันอยู่ที่ไหน!!” พีระบีบแขนอึ่ง

“โอ๊ย อึ่งเจ็บ”

“ก็รีบบอกมาสิว่าคุณโรซี่อยู่ไหน แล้วฉันจะปล่อย เร็วสิ บอกมา!!!”

“ก็ได้ๆ พี่นางฟ้าอยู่ที่บ้านนั่นแหล่ะ”

พีระและอุษาวดีพูดพร้อมกัน “บ้าน!!!”

พีระหันไปเอาเรื่องน้ำค้างทันที

“ยัยตัวแสบหน้าไหว้หลังหลอก!” 

“ไม่ได้หลอก ที่ว่าอยู่บ้านน่ะ มาทำธุระอยู่บ้านนายอำเภอต่างหาก! ฉันกำลังจะพาไปอยู่นี่ไง”

น้ำค้างจูงมืออึ่ง “อึ่งขึ้นรถ”

อึ่งมองน้ำค้างงงๆ น้ำค้างแอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“โห ฝันไปรึเปล่า เพิ่งเคยเห็นพี่น้ำค้างโกหกเป็นครั้งแรก แถมยังเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก”

“แต่นายนั่นเป็นข้อยกเว้น คนนิสัยไม่ดีอย่างนั้น มันก็ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ”

“แบบไหน” น้ำค้างยิ้ม “เดี๋ยวก็รู้”

 

 

ที่กองฟางโรสรินยืนเชิ่ดๆ หยิ่งๆ สวยๆ มาลัยดันหลังตะวันที่แข็งขืนมายืนอยู่หน้าโรสริน

“รีบๆ ขอโทษซะสิพี่ตะวัน เรื่องจะได้จบๆ มาลัยกลับไปตลาดก่อนนะ มิสยูนะ ขอจุ๊บที ม๊วมๆๆๆๆ”

ตะวันรีบยื่นมือดันหัวมาลัยไว้ได้ทัน มาลัยยอมเดินไป แต่ก่อนไปสะบัดหน้าให้โรสรินทีนึง 

“สำนึกได้ล่ะสิว่านายทำผิดต่อฉัน ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้”

ตะวันอึกอัก “ผม..ผม..ขอ…”

โรสรินยิ้มเย้ยๆ “พูดให้มันเคยปากไว้เถอะ เพราะมันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ เร็วๆ สิ”

ตะวันชักโมโห “ผมขอ… ผมขอ” โรสรินรอฟังคำขอโทษอย่างลุ้น

“ผมขอสั่งให้คุณไปอาบน้ำอาบท่าซะ คนอะไรตัวเหม้นเหม็น เหม็นขี้หมู!!!”

แล้วตะวันก็เดินหนีออกไปเลย โรสรินเหวอ ปรี๊ดสุดๆ รีบดิ่งตามตะวันไป 

 

“จะหนีไปไหน ขอโทษฉันก่อนสิ ขอโทษเดี๋ยวนี้”

“ไม่ จนกว่าผมจะซ่อมนิสัยเสียๆ ของคุณให้หายก่อน”

“อย่าทำให้ฉันจี๊ดส์จนทนไม่ไหวนะ”

“ทำไมจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอรึไง”

“คนที่ต้องชักดิ้นชักงอคือนายต่างหาก!!!”

ตะวันมองอย่างไม่เข้าใจ โรสรินยิ้มร้ายผลักตะวันทันที ให้ล้มในถังขี้หมู

“ตกถังขี้หมูไปซะเถอะ”

ก่อนตะวันจะหงายหลัง ตะวันเหนี่ยวตัวโรสรินไว้ได้!!!!

“ว๊ายยยยย ปล่อยฉันนะ”

ตะวันล็อคตัวโรสรินไว้แน่น ทำให้ตะวันกับโรสตัวใกล้ชิดกันมาก สบตากัน… ใกล้ยิ่งกว่าใกล้… แล้วตะวันก็ทำท่าจะปล่อยโรสรินลงถังขี้หมู

“คนที่จะตกถังขี้หมูคงเป็นคุณแล้วล่ะ”

“อ๊ายยย ไม่เอา อย่า ฉันไม่ได้ตั้งใจแกล้งนายนะ ฉันขอโทษปล่อยฉันเถอะ พลีสสส”

“มันน่านัก… แต่เอาเถอะผมยกให้สักครั้ง” 

ตะวันมองสบตาโรสริน “เพราะวันนี้ผมทำไม่ดีกับคุณจริงๆ” 

            รสรินอึ้ง สัมผัสได้ถึงความจริงใจของตะวัน ตะวันยิ้มทะเล้น

            “แล้วที่สำคัญคุณก็อุตส่าห์ขอโทษผมซะด้วย” 

ตะวันอุ้มโรสรินไปวาง แล้วเดินหนีไปอย่างสบายใจ โรสรินมองตะวันอย่างเจ็บใจที่อะไรๆผิดแผน

 

 

 

รถน้ำค้างขับนำรถพีระเข้ามาจอดในป่ารกร้างวังเวง ทุกคนลงจากรถ พีระและอุษาวดีเดินเข้ามาหาอย่างข้องใจ อุษาวดีมองไปรอบๆ

“บ้านนายอำเภออยู่ที่ไหน?”

“ยัยตัวแสบ ฉันไม่ว่างพอที่จะให้เธอปั่นหัวเล่นนะ อย่ามาลูกเล่นกับฉัน”

“มีสติกันหน่อยได้มั้ย ฉันพาพวกคุณมาทางลัด” น้ำค้างชี้

“พวกคุณต้องเดินเท้าเข้าไปตามทาง แล้วจะเจอทางทางแยกข้างหน้าก็จะถึงบ้านนายอำเภอแล้วค่ะ”

พีระ อุษาวดีมองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ

“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่โกหก”

น้ำค้างยิ้มใสซื่อ “โถ…ฉันจะโกหกทำไมล่ะ”

“ช่ายยย บาปกั๊ม บาปกรรม…” น้ำค้างกับอึ่งยิ้มใสซื่อให้พีระกับอุษาวดี 

“รีบไปเถอะจ้ะ.. ป่านนี้คุณโรสคงใกล้เสร็จธุระแล้วล่ะ”

“ยังไงก็ขอบใจเธอมาก แล้วฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่อาจจะก้าวร้าวกับเธอมากไปหน่อย”

อุษาวดีพูดกับพีระ “รีบไปหายัยโรสแล้วก็รีบกลับบ้านเราซะที ไป”

แล้วอุษาวดีกับพีระก็เดินเข้าไปในทางแคบๆ ในป่า น้ำค้างโบกมือบ๊าย บายให้ จากนั้นเปลี่ยนสีหน้าใสซื่เป็นเจ้าเล่ห์อย่างที่สุด น้ำค้างกับอึ่งแอบกิฟต์มีไฟว์ให้กัน อิอิ

“สมน้ำหน้า ซ่าส์ดีนักก็ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ”

พลันเสียงหมาหอนก็ดังขึ้น… บรู๋วววว น้ำค้าง อึ่งสะดุ้งโหยง

“รีบกลับไร่เราดีกว่าพี่น้ำค้าง เดี๋ยวแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มานะ”

“จริงด้วย ไปอึ่ง เผ่นกันเหอะ”

น้ำค้างกับอึ่งรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที

 

พีระและอุษาวดีเดินตัวชิดติดกันอย่างกลัวๆ หมาก็หอนไม่หยุด บรู๋วววว

“ไหนล่ะ ทางแยกไปบ้านนายอำเภอ”

“มีแต่ป่า ป่า แล้วก็ป่า…แถมหมาหอนตลอดทางเลย”

อุษาวดีเดินเบียดพีระ อย่างกลัวๆ  “อย่าเบียดๆ เดินดีๆ สิ”

“ไม่เอา พี่เป็นผู้ชาย เป็นผู้นำนะ นำหน้าไปก่อนเลย”

อุษาวดีดันตัวพีระ พีระเสียหลักจะล้ม “เฮ้ยยยยยยยย” 

พีระล้มพรวดไปข้างทาง นอนคว่ำ พีระเห็นแผ่นป้ายไม้ปักอยู่ พีระเพ่งมอง…

“ป้ายอะไรเหรอพี่…” พีระหยิบมือถือกดส่องแสงแทนไฟฉาย

“เอ่อ… นาย ทองดี มีทองแดง ชาตะ 2มกรา 2515 มรณะ 3 สิงหา 25… ชัดเลย.. รู้แล้วว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน”

“ที่…”

“ป่าช้า”

“ป่าช้า!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”

อุษาวดีวิ่งป่าราบหนีกลับไปที่รถ พีระลุกขึ้นมองไปรอบๆ กลัวสุดๆ หมาหอน บรู๋ววววววว

“ระ ระ ระ รอด้วยยยยย”

พีระสะดุ้งตกใจ “ผี ๆ ๆ ๆ ผีจับขา อ๊ากกกกกก!!!!” รากไม้เกาะติดที่ขา พีระร้องลั่นวิ่งหนีกลัวสุดๆๆ

 

 

ภายในห้องพักโรสริน โรสรินเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเช็ดผมอยู่ โรสรินคิดแค้นตะวันมาก

“นายตะวัน ฉันจะแก้แค้นนายยังไงดีนะ”

โรสรินครุ่นคิดวิธี พลันก็ยิ้มออก

“าคุณปู่รู้ว่าหลานสาวสุดที่รักต้องเจ็บทั้งกายทั้งใจแบบนี้ คุณปู่ต้องหาทางเอาตัวฉันกลับแน่ๆ” 

โรสรินยิ้ม “แล้วข้อตกลงบ้าบอทั้งหมดก็ต้องเป็นโมฆะ”

โรสรินค้นหาโทรศัพท์มือถือทั้งในกระเป๋า โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางของต่างๆ แต่ก็ไม่เจอ

“มือถือหาย!” โรสรินตาวาว น่ากลัว 

“ใคร?? ใครบังอาจมาขโมยมือถือของคุณหนูโรส???. โรสรินหลิ่วตาคิดหลิ่วตา “จะมีใคร๊???”

รสรินทำหน้าแค้นสุดๆ 

 

โรสรินกำลังจะแอบย่องเข้าไปที่ห้องตะวัน เผอิญเห็นแย้เดินนุ่งผ้าขาวม้าถือขันถือแปรงสีฟัน โรสรินรีบแอบหลบมุม รอจนแย้เดินออกไปแล้ว โรสรินก็ย่องไปที่หน้าห้องตะวัน ลองบิดลูกบิด ปรากฏว่าไม่ได้ล็อก 

โรสรินยิ้มร้ายแล้วเปิดประตูเข้าไป

 

โรสรินเข้าไปในห้องตะวัน หันซ้ายหันขวามองหาโทรศัพท์มือถือ

“มือถือๆๆๆ” โรสรินรีบหามือถือตามชั้นวางของ หาไปหามา ไปเจอรูปถ่ายตะวันถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็คในแปลงดอกไม้ โรสรินหยิบรูปขึ้นมาดู

“โห.. เป๊ะมาก” แต่แล้วนึกได้ “อี๋ แหวะ  ชมหมอนั่นทำไมเนี่ย” 

เปลี่ยนใจด่ารูป “น่าเกลียด โชว์ออฟ!!”

โรสรินหามือถือต่อ ปรากฏว่าเจอมือถือในที่สุด โรสรินหยิบขึ้นมา

“เยส! นึกแล้วไม่มีผิด!! อีตาบ้า!!”

พลันได้ยินเสียงลูกบิดประตู  แกร๊ก กำลังจะมีคนเข้ามาในห้อง โรสรินตาโต ซวยแล้ว โรสรินคิดเอาไงดีๆๆ  รีบมุดตัวใต้ผ้าห่มบนเตียงตะวัน 

ตะวันผิวปากสบายใจเข้ามา นุ่งผ้าขาวม้าถอดเสื้อผัดแป้งขาวว่อก เดินไปส่องกระจกเช็ดผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง 

ในผ้าห่มโรสรินแทบอยากบ้าตาย ครุ่นคิดหาวิธีเอาตัวรอดไม่ให้ตะวันรู้!  

ตะวันเดินไปนั่งอ่านหนังสือกล้วยไม้อย่างสบายใจที่โต๊ะหนังสือ

 

ที่หน้าบ้านตะวัน ชาญ น้ำค้างและอึ่งหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี อาทิตย์กำลังระบายสีรูปดอกกุหลาบอยู่ ชาญลูบหัวน้ำค้างและอึ่ง

“เก่งมากป่านนี้สองคนนั้นจับไข้หัวโกร๋นแล้วมั้ง”

“เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับหลานปู่ชาญ” อึ่งหันไปพูดกับอาทิตย์ “จริงมั้ยจ๊ะอาทิตย์”

อาทิตย์ไม่ตอบ ระบายสีดอกกุหลาบตามเดิม พลันรถของพีระก็ขับมาเบรกเอี๊ยดจอดอยู่หน้าบ้าน ทุกคนหันมองไปทางเสียงที่ได้ยิน

“ใครมันมาวะน่ะ”

“อึ่งไปดูเองจ้ะ”

อึ่งวิ่งไปที่หน้าต่าง ชะโงกหน้ามองพลันก็ตกใจ หันมาบอกทุกคน

“แย่แล้วๆๆ คนกรุงเทพสองคนนั้น กลับมาแล้ว”

ปู่ชาญคว้าปืนลูกซองยาวมากระชับไว้ในมือ

“งานนี้ปู่เคลียร์เองโว้ย!!!”

อาทิตย์มองตาม ชาญ น้ำค้าง และอึ่งที่วิ่งออกไป

 

ที่หน้าบ้านตะวัน พีระและอุษาวดีลงจากรถอย่างโมโหสุดๆ  ชาญ อึ่ง และน้ำค้าง เดินเข้ามาหา

“พวกคุณเอาโรซี่ซ่อนไว้ที่ไหน”

“นี่มันกักขังหน่วงเหนี่ยวกันชัดๆ ถ้าไม่ยอมบอก เรื่องนี้คงต้องถึงตำรวจค่ะ”

“อ้าว… กล่าวหากันแบบนี้ไม่ได้นะคุณ ก็หนูโรสเค้าสมัครใจมาที่นี่เอง”

“แต่เราไม่สมัครใจให้คุณโรสเจอพวกคุณ” 

“เราจะกลับก็ต่อเมื่อเราได้ตัวโรซี่กลับไปด้วย น้องอุษา ลุยกันเลย”

พีระกับอุษาวดีทำท่าจะบุกเข้าไปชาญแกล้งทำปืนลั่นขึ้นฟ้า เปรี้ยงพีระ กับอุษาวดีตกใจ ชะงัก

“อุ๊ย บ้าจัง โทษทีนะ ปืนมันลั่น”

“แหม หมู่นี้ลั่นบ่อยเหลือเกินนะจ๊ะปู่ จะโป้งป้างโดนใครเข้ามั้ยน๊า”

“ขู่กันแบบนี้คิดว่าจะกลัวเหรอ”

“นี่คุณรู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่า ว่าหนูโรสกับเจ้าตะวันหลานผมมีสัญญาผูกมัดต้องแต่งงานกัน แล้วถ้าคุณพาคุณโรสออกจากไร่นี้แม่แต่ก้าวเดียว เท่ากับละเมิดสัญญา หนูโรสจะกลายเป็นเจ้าสาวของนายตะวันทันที”

“ข้ามศพผมไปก่อนแล้วกัน”

อุษาวดีดึงมือพีระออกไป “ไปเถอะพี่พี เลิกล้มความตั้งใจได้แล้ว”

ชาญและน้ำค้าง ยิ้มอย่างพอใจ อุษาวดีลากพีระไปที่รถ พีระข้องใจสุดๆ

“อะไรของเธอ เราจะยอมกลับง่ายๆ ไม่ได้!!!”

อุษาวดีพูดเบาๆ “แล้วใครว่ายอม… .ใช้สมองหน่อยสิ เราต้องไม่ทำให้พวกเค้าสงสัย”

อุษาวดียิ้มเจ้าเล่ห์ พีระครุ่นคิดตามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา อุษาวดีและพีระขึ้นรถแล้วขับออกไป

ชาญ น้ำค้าง และอึ่ง ยกมือแตะกันGive me five อย่างดีใจ 

 

พีระขับรถไปจอดแอบในมุมลับตาแล้วก็ลงจากรถพร้อมอุษาวดี  ทั้งสองมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง

“อุษาว่ายัยโรสต้องอยู่ที่บ้านหลังนั้นแน่ๆ”

“หรือว่าโรซี่จะโดนจับตัวขังไว้! ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน โธ่เว้ย บ้านป่าเมืองเถื่อนที่สุด”

“อย่าเพิ่งคิดในแง่ลบเลยพี่พี ถ้าเค้าไม่ให้เราเจอยัยโรส ก็ต้องแอบเข้าไปหา”

พีระยิ้มมั่นใจ “ตามนั้น ลุยเลย!”

 

พีระและอุษาวดีแอบย่องเข้ามาในบ้านตะวัน เห็นชาญผัดแป้งที่หน้าขาวว่อก เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้ามาปิดไฟบ้าน พีระและอุษาวดีรีบหลบมุมทันที พอเห็นชาญเดินออกไปแล้วก็ถอนใจโล่งอก

    “ช่วยกันตามหาตัวโรซี่ให้เจอ!”

 

ที่ห้องนอนตะวัน โรสรินแอบอยู่ใต้ผ้าห่ม เปิดชายผ้าห่มออกดู เห็นตะวันเริ่มหาว ตะวันเก็บหนังสือกล้วยไม้เข้าลิ้นชัก แล้วปิดโคมไฟ ตะวันกำลังถอดผ้าขาวม้า โรสรินเห็นแทบกรี๊ดดีที่ปิดปากทัน! ตะวันหยิบกางเกงขาสั้นมาใส่แต่ไม่สวมเสื้อ เดินไปปิดไฟห้อง หาว แล้วล้มตัวลงนอน ตะวันดึงผ้าห่มมา แปลกใจทำไมหนักๆ แล้วก็ไม่คิดอะไร ตลบตัวมากอดผ้าห่มแทน โรสรินที่อยู่ข้างในจะบ้าตาย !ตะวันเกลือกกลิ้งกับผ้าห่มจนผ้าห่มใกล้จะหลุดรุ่ยออกมาโรสรินทนไม่ไหวแล้ว ยอมแพ้! โผล่พรวดออกมา ปรากฏว่าตะวันหลับไปซะแล้ว

“หลับแล้วเหรอ! หลับง่ายเป็นเด็กๆ เลย…  ตะวัน ตะวัน นายตะวัน”

ตะวันหลับสนิท โรสรินมองมือถือในมือ ยิ้มดีใจจะลุกออกไป แต่ตะวันดันเหนี่ยวไว้นึกว่าโรสรินเป็นหมอนข้าง!!! โรสรินพยายามแกะมือแกะขาตะวันออกอย่างไม่อยากให้ตื่น! พลันประตูเปิดพรวดเข้ามาโดยพีระและอุษาวดี ทั้งสองเปิดไฟในห้อง พีระและอุษาวดีช๊อกที่เห็นตะวันนอนกอดโรสรินอยู่ โรสรินก็ช๊อก

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”

โรสรินตกใจด้วย “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”

พีระตกใจอีกคน “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”

ตะวันสะดุ้งตื่น เห็นว่าตัวเองกอดโรสรินอยู่ “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

ทุกคนในห้องต่างมองกันอย่างอึ้งๆ!!!

 

ที่ห้องโถงบ้านตะวัน ตะวัน ชาญ น้ำค้างและแย้  ยืนประจันหน้ากับโรสริน พีระและอุษาวดี

“เอามือถือของฉันคืนมา!!!”

ตะวันกำโทรศัพท์มือถือไว้ “ไม่ อย่ามาหาข้อแก้ตัว มือถือเป็นแค่ข้ออ้างของคุณ”

“ข้ออ้างอะไรของนาย”

“ก็ข้ออ้างที่คุณหาเรื่องมาลักหลับผมไง อยู่ดีๆ คุณแอบมานอนบนเตียงผมทำไม”

โรสรินปรี๊ด “ทุเรศที่สุดเลย ใครจะมาลักหลับนายแค่คิดก็.. อี๋ แหวะ!” 

พีระถามอย่างหวั่นๆ “โรซี่… มันไม่จริงอย่างที่นายนั่นว่าใช่มั้ย”

“นี่พีคิดว่าโรสจะ… อึ๋ยยย   กับนายนั่น มีสมองรึเปล่าถึงคิดอะไรแบบนี้!”

“ยัยโรสพวกเรามาพาเธอกลับ เรากลับกันตอนนี้เลยนะ”

ชาญฮัมเพลงแต่งงาน “แต่แต๊แดแด แต่แต๊แดแด….ถ้าไปหนูโรสต้องแต่งงานกับนายตะวันเลยนะ”

“อย่าขู่โรสนะคะ!!!”

“เปล่าขู่นา ถ้าไม่เชื่อถามเจ้าณรงค์ปู่หนูก็ได้” ชาญชี้ไปที่โทรศัพท์ “โทรศัพท์อยู่โน่น โทรเลย”

พีระพูดกับตะวัน “นายก็ไม่ได้รักไม่ได้ชอบโรซี่ ปล่อยโรซี่ไปเถอะ”

“วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว ไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับพวกคุณ” ตะวันจะเดินหนี

“นายตะวัน จะหนีไปไหน” ตะวันเดินไปใกล้ๆ โรสริน

“ไปนอน! แล้วคราวหลังคราวหลังอย่าคิดจะลักหลับผมเด็ดขาด!”

แล้วตะวันก็เดินหนีไปเลย โรสรินปรี๊ดสุดๆๆๆ

 “ไอ้… ปากเหรอเนี่ย นายนี่มัน.. นายมัน…โอ๊ยยยย ไอ้บ้า ฉันเกลียดคนอย่างนาย ที่สุดเลย 

เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย..จี๊ดสสสสสส์!!!”

โรสรินแผดเสียง ทุกคนได้แต่อุดหูกับพลังเสียงแปดหลอดของโรสริน!!!

 

เช้าวันใหม่ที่แปลงดอกกุหลาบ โรสรินเดินมา โดยมีพีระและอุษาวดีเดินตาม

“โรสคิดไม่ออกแล้วว่าจะหนีออกจากที่นี่ได้ยังไง” 

“โรสต้องทนอยู่ที่นี่ตั้งหนึ่งปี มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

“ถูก แค่นอนที่นี่วันเดียวก็สยองแล้ว โลวเทคไปซะทุกสิ่ง”

“เฮ้อ…. รู้งี้หนีกลับอังกฤษตั้งแต่แรกก็ดี”

พีระเห็นตะวันกับชาญกำลังฉีดปุ๋ยอยู่ในแปลงดอกกุหลาบ จึงจุ๊ปากชวนทุกคนหลบมุมแอบฟัง

“เรื่องมันชักจะยุ่งแล้วนะปู่ ลำพังผมก็ปวดหัวเรื่องยัยโรสมากพออยู่แล้ว ยังมีพวกจากกรุงเทพมาป่วนอีก”

“ก็อย่าไปใส่ใจสิวะ เดี๋ยวปู่หาทางไล่ออกไปเอง”

“คิดเหรอว่าพวกเค้าจะยอมไปง่ายๆ ไร่เราจะวุ่นวายก็คราวนี้ล่ะ! ผมขอบอกไว้เลยนะ ถ้ายัยโรสก่อเรื่องวุ่นจนหัวผมระเบิดเมื่อไหร่ ผมตะเพิดเธอกลับแน่”

“เฮ้ย! ไม่ได้นะเว้ย”

“ถ้าผมทนไม่ไหว ผมจะไม่สนใจสัญญารักของปู่แล้วนะครับ บางทีผมนี่แหล่ะจะฉีกสัญญาด้วยตัวเอง!!”

ตะวันเดินหนีออกไปเลย ชาญหนวดกระดิกขึ้นมาเพราะความโกรธ

“อ้าวเฮ้ย พูดงี้ก็สวยสิวะ มาเคลียร์กันก่อน นี่มันเป็นสัญญาศักดิ์สิทธิ์ใครก็ทำลายไม่ได้นาโว้ย!”

พีระยิ้มร้ายอย่างมีแผน โรสรินและอุษาวดีมองอย่างสงสัย

“หึหึ… พีรู้แล้วว่าจะออกจากนรกที่นี่ได้ยังไง”

 

โรสริน พีระและอุษาวดียืนอยู่ที่แปลงดอกกุหลาบ เห็นดอกกำลังตูมเต็มแปลงไปหมด พีระยิ้มร้ายอย่างมีแผนเด็ด

ทำลายให้เหี้ยนเลย ในเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องทำเลวให้พวกเค้าไล่โรซี่กลับ!!!”

โรสรินอึ้ง “ทำเลว”  โรสรินชี้ตัวเอง “โรสเนี่ยนะ”

“เชื่อพีสิ โรซี่นิสัยไม่ค่อยดีอยู่แล้วน่าจะทำได้”

โรสรินจ้องหน้าพีระขวั่บ อย่างเหวี่ยงๆ พีระจ๋อย

“เดี๋ยวนะ เราจะทำลายแปลงดอกไม้จริงๆ เหรอ เค้าต้องโกรธมากแน่ๆ”

“สิ่งนี้แหล่ะที่ต้องการ ถ้าพวกเค้าโกรธเค้าไม่เอาโรซี่ไว้แน่ จริงมั้ย… ดูสิ ดอกกำลังตูมได้ที่ส่งขายได้พอดี”

โรสรินครุ่นคิด “ทำลายอย่าให้เหลือแม้แต่ดอกเดียว!!!”

โรสรินยิ้มร้ายสุดๆ คราวนี้ล่ะได้ออกจากไร่สมใจแน่!

 

ที่ตลาด มาลัยกับมาลีกำลังเม้าท์กับแม่ค้าอย่างออกรสชาติ

“จริงเหรอวะมาลัย ถ้าอย่างนั้นแกก็ต้องอกหักดังเป๊าะน่ะสิ”

“ไม่มีทาง พี่ตะวันเกลียดยัยนั่นยังกะอะไร”

“แต่เอ็งก็บอกเองนะ ว่ายัยโรสรินเค้าเป็นว่าที่เมียของคุณตะวัน แล้วอย่างนี้เอ็งยังจะจับคุณตะวันได้อีกมั๊ยวะ โอ๊ย เครียดโว้ย”

เดชา ล่ำและแหลมเดินเข้ามาพอดี ได้ยินชื่อโรสรินและตะวันก็สนใจ

“พี่ตะวันอยากได้ยัยนั่นเป็นเมียซะที่ไหน โด่เอ๊ย ฉันจะบอกให้นะยัยโรสน่ะไม่ใช่เสป็ค พี่ตะวันเลย มีดีก็แค่สวย มีชาติตระกูล แล้วก็คงจะรวย ดูไฮโซๆ หน่อย ก็เท่านั้นเอง สู้ฉันไม่ได้สักนิด”

“จะโม้ว่าสเป็คตะวันต้องหยั่งแกล่ะสิ??”

“แน่นอน” มาลีหันไปทางแม่ค้า “เอ๊ะอีนี่ วอนๆๆ เดี๋ยวแม่ตบ”

เดชาเดินเข้ามาหามาลัย มาลัยเห็นก็แจ๊ดแจ๋ใส่

“เสี่ยเดชาจ๋า วันนี้จะเหมาผลไม้มาลัยยกแผงอีกรึเปล่าจ๊ะ”

“เอาหมดนี่แหล่ะ”

มาลีโกยผลไม้ใส่ถุง “แหมเสี่ยเดชาเนี่ย หล่อแล้วยังทุ่มทุนสร้างอีกนะจ๊ะเนี่ย นี่ถ้ามาลัยชอบเสี่ยซะหน่อยนะ ไม่ปล่อยให้หลุดมือหร๊อก”

“ถามอะไรหน่อย ผู้หญิงที่ชื่อโรสเป็นอะไรกับตะวันนะ”

“พูดแล้วมันขึ้นเลย ปู่ชาญจับยัยนั่นคลุมถุงชนกับพี่ตะวันน่ะ ได้ยินมาว่าต้องอยู่ที่ไร่ตะวันตั้งปีนึง 

มาลัยพูดไปยัดผลไม้ใส่ถุงไปด้วย “คิดแล้วมันอิจฉา มันแค้น มันเครียด อยากจะตบสักทีสองทีจริงๆ” 

เดชาครุ่นคิดอย่างมีแผน รู้สึกสนใจผู้หญิงที่ชื่อโรสรินมากขึ้น

 

          ที่แปลงดอกกุหลาบ ล่ำและแหลมเดินถือถุงผลไม้ตามหลังเดชาเข้ามา ทั้งสามคนหันมองสอดส่องสายตาไปทั่ว

“เสี่ยเดยังจะอยากเจอคุณหนูนั่นอีกทำไมครับ”

เดชาแค่นยิ้ม “อะไรที่เกี่ยวข้องกับไอ้ตะวันมันน่าสนทั้งนั้น  โดยเฉพาะผู้หญิงของมัน” 

ล่ำเห็นโรสริน อุษาวดีและพีระ ง่วนกับการทำลายแปลงกุหลาบอย่างแข็งขัน

“เสี่ยเดครับ ทางโน้น”

-เดชามองไป ก็สะดุดสายตากับโรสรินและอุษาวดีที่กำลังตัดดอกไม้อย่างแข็งขัน ส่วนพีระก็ใช้จอบขุดทำลายถอนรากถอนโคนดอกไม้ จนหอบแฮ่ก

“หยุดทำไมล่ะพี รีบเร่งมือเร็วเข้าเดี๋ยวมีใครมาเห็นก่อนพอดี”

“พักก่อนเถอะนะโรซี่”

“แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จซะทีเห๊อะ!”

อุษาวดีปาดเหงื่อ “ฉันจะเป็นลมตายอยู่แล้วนะยัยโรส”

เดชาและลูกน้องรีบเดินถือผลไม้เข้ามาหา

“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าครับคุณโรส”

โรสริน อุษาวดีและพีระหันมองแขกแปลกหน้า อย่างสงสัยว่า ใคร??? แต่สายตาเดชาจ้องมองโรสรินอย่างไม่กระพริบ  ไม่สนใจคนอื่น

โรสรินตอบเหวี่ยงๆ “รู้จักชื่อฉันได้ยังไง นาย…”

“ผมเดชา ได้ยินมาว่าคุณเป็นสมาชิกคนใหม่ของไร่ตะวัน”

“แล้วไง ไปให้พ้นเลยไป ฉันไม่มีเวลาคุยด้วย”

เดชายิ้มถูกใจกับอาการเหวี่ยงไม่เลือกหน้าของโรสริน!

“หูหนวกรึไง ยิ้มอะไร รู้ตัวมั้นว่านายกำลังทำให้ฉันจี๊ดสสส์!!!

โรสรินชี้หน้าเดชา ล่ำและแหลม โมโหแทนปรี่เข้าไปหา

“เฮ้ย พูดจาให้มันดีๆ รู้ตัวมั้ยว่าพูดอยู่กับใคร”

เดชาถองศอกใส่ล่ำกับแหลม อย่างปรามๆ

“อย่าเสียมารยาทกับคุณโรส พอดีผมต้องผ่านมาธุระแถวนี้ก็เลยมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝาก สมาชิกใหม่ของที่นี่ ตะวันกับผม ก็คนคุ้นเคยกัน”

“เฮ้ยๆๆ ทนดูอยู่นานแล้ว จะมองโรซี่อะไรนักหนา วางของฝากแล้วไสหัวไปเลย”

ล่ำและแหลมเข้าประกบทันที พีระจ๋อย ๆ กลืนน้ำลายเอื้อก โรสรินไม่สนใจจัดการตัดดอกกุหลาบต่อ 

เดชามองอย่างสงสัย

“พวกคุณทำลายแปลงกุหลาบทำไมครับ

“ไม่ต้องยุ่งน่ะ พวกฉันจะทำอะไร นายไม่เกี่ยว!”

เดชาหันจ้องหน้าพีระอย่างโหด พีระถึงกับสะดุ้ง

“ก็… พอดีนายตะวันไม่ใช้แปลงกุหลาบนี่แล้ว ก็เลยสั่งให้ฉันมาจัดการให้น่ะ พวกนายพอจะช่วยฉันได้มั้ย.. ได้มั้ย…เดชา… “ เดชายิ้มให้แทนคำตอบ ห่างไปแย้กับคนงานเดินเข้ามาเห็นเดชา ล่ำและแหลมช่วยกันขุดดินทำลายแปลงกุหลาบ 

“เฮ้ยยย ไอ้เดชา…บรรลัยล่ะทีนี้ อะไรกันวะเนี่ย!!!!”

 

ที่หน้าบ้านตะวัน ตะวันยืนคุยกับชาญ และส่ายหน้าอ่อนใจกับความคิดของชาญ

“เชื่อปู่สิ หนูโรสเค้าฤทธิ์เยอะก็จริง แต่ก็ไม่กล้าทำเรื่องวุ่นวายหรอก” 

“ถ้าขืนทำแสบอีกล่ะ โดนดีแน่!!”

พลันแย้วิ่งเข้ามาอย่างตื่นตกใจ

“ลูกพี่ตะวัน คุณปู่คร๊าบบบ เกิดเรื่องใหญ่แล้วววววว”

“เรื่องอะไรวะไอ้แย้”

“อืม…ขอตั้งชื่อเรื่องแป๊บนึง”

“เดี๋ยวยันโครม ยังไง มีเรื่องอะไร”

แย้มีสีหน้ากลุ้มและหวาดเสียวสุดๆ ตะวันยิ่งสงสัย… มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่!

 

โรสริน พีระและอุษาวดี ยืนมองเดชาและลูกน้องทำลายแปลงดอกไม้อย่างชื่นใจเป็นที่สุด เดชา ล่ำ และแหลม กระซวกจอบเต็มที่ทุกอย่างราบเป็นหน้ากอง

“เรียบร้อยแล้วครับ

“ขอบใจนายมากนะ”

“เปลี่ยนเป็นเลี้ยงตอบแทนผมซักมื้อได้มั้ยครับ”

“ทะลึ่งแล้ว โรซี่เป็นแฟนฉัน อย่าสะเออะ”

“พี! โรสบอกกี่ครั้งแล้วว่าเราไม่ใช่แฟนกัน ไม่ใช่”

พีระแอบจ๋อย เดชามองอย่างสะใจ! พลันตะวันและชาญ เดินเข้ามา

“ไร่ตะวันยินดีต้อนรับ ลมอะไรหอบ เสี่ยเดชาผู้กว้างขวางมาที่นี่ได้

พลันโรสรินหันไปเห็นก็ยิ้มอย่างระรื่นมากๆ

“อ้าวมาพอดีเลย” โรสรินส่งยิ้มให้ตะวัน “ดูสิตะวันแปลงกุหลาบของนายหายไปหมดแล้ว”

โรสรินกะว่าตะวันคงจะโกรธเต็มที่ แต่ตะวันกับชาญกลับยิ้มแย้มปรบมือให้ ทำให้เธอช๊อกสุดๆ

“ขอบคุณมาก… คุณรู้ได้ยังไงว่าผมตั้งใจทำลายแปลงนี้อยู่พอดี”

“กุหลาบแปลงนี้พันธ์ไม่ค่อยดี แถมดินก็เป็นด่างใช้กำมะถันแก้ยังไงก็เอาไม่อยู่ ขอบใจหนูโรสกับเพื่อนๆ มากนะ”

ตะวันหันมาพูดกับเดชา “ขอบใจที่มาช่วย พวกนายทำงานไวดีนี่ สนใจเป็นคนงานที่นี่รึเปล่า”

เดชาจ้องตะวัน ไม่ขำด้วย! ตะวันยิ้มให้โรสรินอย่างรู้ทัน

“นึกว่าคุณจะก่อแต่เรื่อง ไม่คิดเลยว่าคุณก็ทำประโยชน์เป็นเหมือนกันนะ”

พีระและอุษาวดีมองหน้ากันเหวอๆ โรสรินยิ้มเจื่อนๆ “ก็เพราะฉันอยากช่วยนายไง”

โรสรินเสียหน้าสุดๆ แต่ก็ต้องปั้นหน้าระรื่นรับคำชม

 

อีกมุมหนึ่งของไร่ตะวัน น้ำค้างหันมาถามตะวันอย่างไม่แน่ใจ

“แน่ใจนะคะ ว่าไม่ได้อำ ตกลงจะรื้อแปลงกุหลาบอยู่แล้วจริงๆเหรอ”

“ไร่เราคงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา แม้แต่พวกที่มีเจตนาไม่ดี ก็ยังแพ้ภัย!”

“พี่ตะวันหมายความว่า พี่โรส เค้าตั้งใจจะทำลายของงั้นเหรอ!!”

“ไอ้แย้ ต่อไปนี้บอกพวกคนงาน คอยจับตาดูดีๆ ถ้าใครมาทำอะไรในไร่ของเราอีก ต้องรีบรายงานฉันให้เร็วกว่านี้!”

สีหน้าตะวันจริงจัง น้ำค้างยังเหวอไม่อยากเชื่อ

 

ด้านนอกไร่ตะวัน เดชา ล่ำและแหลมกำลังคุยกัน

“มันน่าจะกระทืบไอ้ตะวันซะที มาชวนเสี่ยเดเป็นคนงานได้ไงวะ!”

เดชาไม่สนใจล่ำและแหลม ยิ้มเหมือนยังตกอยู่ในภวังค์ 

“เสี่ยเดยิ้มอะไรครับ อย่าบอกนะว่า ชอบผู้หญิงขี้โมโหนั่นจริงๆ”

”ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตะคอกใส่ฉันมาก่อน แล้วดูเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ที่พร้อมสยบแทบเท้าฉันเหมือนคนอื่นๆ จะไม่ให้ฉันชอบได้ไงวะ”

ล่ำเหลือบไปเห็น โรสริน พีระและอุษาวดี ยืนปรึกษากันอยู่มุมหนึ่ง ทั้งสามหลบมุมแอบมอง อุษาวดีและโรสรินกำลังสนใจสิ่งที่พีระจะบอก

“คราวนี้ชัวร์ ผมรู้แล้วว่าคุณจะออกไปจากไร่นี้ได้ยังไง

โรสรินหน้าเซ็ง “ครั้งที่แล้วก็พลาด! ไปทีนึงแล้วนะ คราวนี้อะไรอีกล่ะ”

พีระจับมือโรส คุกเข่า “เป็นเจ้าสาวผมเถอะ ผมจะพาคุณพ้นไปจากนรกขุมนี้เอง!”

-รสริน และอุษาวดีต่างเหวอ

“พี! ทำอะไร!”

“ไม่ใช่เวลามาชักช้าแล้วนะโรซี่ ไปจดทะเบียนกันก่อน งานแต่งไว้ทีหลัง ไป! แล้วค่อยกลับมาขอขมา

ปู่คุณ ผมรับรอง ว่าถึงเวลานั้น มันต้องหมดปัญหา!”

“เฮ้อ… สมเป็นพี่ชายฉันจริงๆ”

โรสรินสบัดมือออก 

“ตื่นได้แล้ว! โรสไม่ได้อยากจะแต่งกับพี แต่อยากจะเป็นผู้บริหารควีนโรส อยากไปให้พ้นๆ ที่นี่ซะที “ 

พีระชะงัก อุษาวดีส่ายหน้าให้พี่ชาย เดชา ล่ำและแหลม ย่างเท้าเข้ามารวมกลุ่ม

“ขอโทษนะครับที่ต้องมาขัดจังหวะ” พีระชักสีหน้าไม่พอใจ 

“พอดีผมบังเอิญได้รู้เรื่องของคุณ รู้สึกเห็นใจจริงๆ เลยอยากจะบอกอะไรคุณไว้สักหน่อย” 

เดชาเข้าไปใกล้โรส

“เฮ้ย จะทำอะไรน่ะ!”

ล่ำกับแหลมขยับอย่างเตรียมเอาเรื่องทันที 

“อย่านึกนะว่าฉันจะกลัว ดูกล้ามซะก่อน ฟิตเนสทุกวันนะเว้ย!”

ล่ำและแหลม เบ่งกล้ามให้ดูบ้าง กล้ามพีระเทียบไม่ติดฝุ่นมากๆ

“พี่พี อายเค้าน่ะ”

โรสรินส่ายหน้าอย่างระอาพีระ แล้วถามเดชา “คุณจะบอกอะไรฉันเหรอ”

เดชายิ้มให้อย่างมีแผนการ

“ผมเข้าใจสิ่งที่คุณคิดจะทำ แต่คุณน่ะยังขาวสะอาดเกินไป”

“อยากจะบอกอะไรก็พูดมาตรงๆ”

“การจะเล่นงานใคร สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ให้ได้ก่อนก็คือ “จุดอ่อน””

โรสรินชะงัก หันไปมองตาเดชา ซึ่งมีแววตาของคนที่เจนจัดเชี่ยวชาญจริงๆ โรสรินคิดตาม…

 

ที่เก็บอุปกรณ์การเกษตร โรสรินแอบจ้องมองดูตะวันซึ่งกำลังขัดคราบดินโคลนออกจากรองเท้าบู๊ท

“จุดอ่อนของนายตะวัน”

โรสรินรวบรวมความกล้า แสร้งยิ้มจริงใจ

“ตะวัน… ขยันจังเลยนะนายเนี่ย”

ตะวันหันมามองโรสรินอย่างประหลาดใจ โรสรินแบ๊วใส่ 

“ทำอะไรอยู่เหรอ ดูน่าสนใจจัง”

“เช็ดขี้วัว!” ตะวันยื่นผ้าชุบน้ำให้ “สนใจมั้ย!”

โรสรินผงะ ถอยกรูดแทบไม่ทัน เริ่มจี๊ดส์ แต่ก็ปรับอารมณ์ได้ทัน

“ก็..ก็น่าสนใจดี ฉันช่วยเช็ดก็ได้นะ”

ตะวันมองไม่ไว้ใจ “มีแผนจะทำอะไรกันแน่”

“นี่! แผนเผินอะไร๊ ฉันก็แค่อยากพูดอยากทำดีๆ กับนาย อย่าทำให้ฉันจี๊ดบ่อยๆ ได้มั้ย”

โรสรินรู้ตัว หันหลัง ส่ายหน้า “ไม่ ไม่ ฉันไม่จี๊ด” แล้วหันกลับมาหวานใส่

“วันเนี๊ยะ นายก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันตั้งใจ ช่วยงานจริงๆ”

“ตั้งใจช่วยจริงรึเปล่าก็ไม่รู้”

“ตั้งแต่เกิด คนอย่างคุณหนูโรสริน ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตเลยนะ” 

โรสรินทำงอน “ฉันเฮิร์ทนะ ที่นายทำ..เหมือนไม่ไว้ใจกัน”

โรสรินเล่นละครส่งสายตาอ้อนวอนตะวันไปเต็มที่ ตะวันมองอย่างไม่ไว้ใจ แต่อยากรู้ว่าโรสรินจะมาไม้ไหน จึงถามหยั่งเชิง

“ผมล่ะซึ้งใจจริงๆ ที่คุณมาอยากช่วยงานขนาดนี้ แต่ขอถามหน่อยเถอะ ไม่ทราบว่า รู้ได้ยังว่าผมตั้งใจรื้อกุหลาบแปลงนั้นทิ้ง” ตะวันมองโรสรินด้วยสายตาจับผิด

“ก็… พอรู้ว่าจะต้องมาที่นี่ ฉันก็ต้องหาความรู้เอาไว้อยู่แล้ว กุหลาบแปลงนั้นก็ดอกไม่สวย ดินก็เป็นด่าง ฉันก็เลยอยากปรับหน้าดินให้ใหม่” โรสรินไหลไปได้ดีเกินคาด จากนั้นหยอดต่อ

“นายยังไม่รู้จักฉันดี ถ้านายปล่อยให้ฉันลุยเองตั้งแต่แรก ก็จะเห็นถึงความสามารถที่ซุกซ่อนอยู่”

“งั้นเหรอ… ถ้างั้นรู้มั้ย ว่าเวลาที่ดีที่สุดในการตัดดอกไม้คือตอนไหน”

โรสรินชะงัก “ฉัน..เอ่อฉัน” ตะวันมองเร่งๆ “พอดีว่าเรื่องนี้ คือ… ฉัน”

ตะวันเน้นถาม “ตอนไหน!”

โรสรินอึกอัก หันไปเห็นบอร์ดตารางจัดเก็บดอกไม้ แปะที่ผนัง !

“ตีห้า กับหกโมงเย็น!”

ตะวันชะงัก หันไปมองด้านหลัง มีป้ายบอกเวลาตัดดอกไม้ติดไว้ หันกลับมาหาโรสริน โรสรินทำเป็นหลบตาว่าไม่ได้มองป้ายนะ

“ขอให้คุณรู้ไว้ว่าความไว้ใจ มันไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ”

ตะวันทำท่าจะเดินไป โรสรินไม่ยอมแพ้

“ทำไมถึงตั้งแง่กับฉันขนาดนี้ ทำงานให้ก็แล้ว พูดดีด้วยก็แล้ว นายจะให้ฉันทำยังไงอีก!” 

โรสรินหันไปเห็นกรรไกรตัดกิ่งหยิบมาเลย

“ฉันจะไปตัดดอกไม้เวลาที่นายบอกว่ามันดีที่สุด” 

โรสรินง้างเปิดปากกรรไกร แต่มันติดตัวล็อคอยู่

“โอ๊ย! ทำไมมันไม่ออกล่ะ” 

ตะวันหันมา “เฮ้ย เดี๋ยวก็โดนบาดหรอก”

โรสรินตกใจ อยู่ๆปากกรรไกรก็เด้งออกเต็มแรง “ว๊ายยย !!!” 

โรสรินมองมือตัวเอง ทำหน้าเหยเก “ไม่..มันไม่เดี๋ยวแล้ว !!!”

มือโรสริน หลบคมกรรไกรไม่ทัน เลือดซิบ โรสรินร้องดังลั่น !!!!

 

ตะวันวางกล่องอุปกรณ์ทำแผลลง แล้วหันไปส่ายหัวให้โรสรินที่กุมนิ้วตัวเองอยู่ เห็นเลือดซึมออกมา

“ไม่เอาไหนแล้วยังจะอวดเก่ง”

โรสรินน้ำตาไหลด้วยความเจ็บ มองตะวันอึ้ง! ที่ไม่ปลอบ

“เจ็บตัวจนน้ำตาไหลพราก ยังจะว่าฉันอีกเหรอ”

“ก็แค่แนะนำ… ไหนดูซิ”

ตะวันจับมือโรสริน มองที่บาดแผลด้วยสายตาเป็นห่วง

“โธ่เอ๊ย แค่แมวข่วนเอง”

“แผลขนาดนี้ เสือตะปบชัดๆ ฉันไม่ได้หนังหนาเหมือนนายนะ”

ตะวันจับมือโรสรินไปใกล้ๆ หน้าตัวเอง โรสรินอึ้ง

“จะทำอะไร”

ตะวันจับมือโรสรินขึ้นมา เป่าพ้วง ! แล้วยิ้มให้โรสริน

“เดี๋ยวก็หายแล้ว”

โรสรินชะงัก ไม่อยากจะเชื่อว่าตะวันจะทำตัวน่ารักแบบนี้  

“ไม่ต้องมาเป่าพ่วง ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะ!”

ตะวันหยิบแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ มาใส่สำลี แล้วเอามาโป๊ะใส่มือโรสริน โรสรินจ๊ากลั่น

“เอ้า ร้องทำไมไหนบอกว่าไม่ใช่เด็กๆ”

โรสรินน้ำตาซึม “ทำแบบนี้กับฉันได้ไง” อกเสียงตะเบ็ง “ฉันเจ็บนะ!!!”

“แล้วอยากจะให้มือสวยๆ เป็นบาดทะยักรึเปล่าถ้าติดเชื้อมากๆ ถึงขั้นตัดนิ้วไม่รู้ด้วย แต่ถ้าไม่อยากให้ผมช่วย ก็แล้วแต่คุณ”

โรสรินเหวอ ตะวันหันหลังจะเดินไป โรสรินดึงชายเสื้อตะวัน

“เดี๋ยวก่อน!” โรสรินยื่นมือให้ แม้จะกลัวจนตัวสั่น “อ่ะ”

“อดทนหน่อย ไม่เจ็บขนาดนั้นหรอกน่า” 

โรสรินเจ็บสุดๆ แต่กลั้นไว้  มืออีกข้าง เผลอจับแขนตะวันไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว ตะวันมองดูโรสรินที่กลัวเหมือนเด็กๆ กลับใจอ่อนยวบอย่างไม่รู้ตัว… 

“ล้างแผลเสร็จ เดี๋ยวใส่ยาแดงก็หายแล้ว” 

ตะวันหยิบยาแดงมาใส่ต่อให้ โรสรินไม่พูดไม่จา หลับตาปี๋ จับตะวันแน่นเหมือนเด็กหาที่พึ่ง ตะวันลอบมองโรสริน รู้สึกเหมือนกำลังดูแลเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ…ทั้งขำแล้วก็ทั้งอบอุ่นขึ้น..อย่างบอกไม่ถูก

 

พีระฮึดฮัด เดินตามโรสรินมาถึงหน้าห้องนอน

“โอ้โห มันจี๊ดส์แทน!!! ผมจะฆ่ามัน ! มันกล้าทำให้โรซี่มีแผล!!”

“เค้าทำที่ไหนเล่าพี่พี เค้าทำแผลให้โรสต่างหาก”

“แต่มันก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวโรซี่ แม้แต่ปลายเล็บ”

“พี อุษา ออกไปกันก่อนเหอะ วันนี้โรสเหนื่อย มาก! อยากพัก”

โรสรินเข้าห้องประตูปิดใส่หน้า พีระกับอุษาวดีที่อยู่หน้าห้อง

“บอกแล้ว ว่าให้ใจเย็นๆ เป็นไงล่ะ

“ไม่เป็นไงนี่ เดี๋ยวโรซี่จะต้องได้รับรู้ถึงความห่วงใยของพี่! พี่ จะช่วยเค้าสืบเรื่องอีกแรง”

“ช่วยสืบ! แล้วพี่พีจะทำยังไง ?”

“ตอนนี้ยังไม่รู้… แต่เดี๋ยวก็ต้องรู้ล่ะน่า” พีระมุ่งมั่น

 

ตะวันนั่งตรวจงานเอกสารต่างๆอยู่ที่ห้องทำงาน แล้วเหลือบไปเห็นรอยเปื้อนยาแดงที่มือ พลอยนึกถึงตอนที่โรสรินเผลอจับแขนตะวันไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว..โรสรินกลัวเหมือนเด็กๆ 

“ล้างแผลเสร็จ เดี๋ยวใส่ยาแดงก็หายแล้ว” 

ชาญพรวดไปหาหลานชาย ทำลายภาพที่ตะวันเคลิ้ม

“นั่งใจลอย คิดถึงสาวเหรอวะ!”

ตะวันยังเคลิ้มอยู่หันมายิ้มให้ปู่ชาญ  ก่อนที่จะรู้สึกตัวปั้นหน้าซีเรียส

“สาวเสิวที่ไหนล่ะปู่! เห็นมั้ยทำงานอยู่เนี่ย” 

ชาญจับปากตะวัน “อั๊นแน๊ ปากแข็งซะด้วย เมื่อกี๊แกเคลิ้มเลยนา”

ตะวันไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ ชาญยิ้มกับฟอร์มของหลาน 

 

ที่ห้องพักโรสริน โรสรินอยู่ในชุดนอน มองดูแผลที่ตะวันทำให้ แล้วอมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงตะวันจับมือโรสรินไปใกล้ๆ หน้าตัวเอง โรสรินอึ้ง

“จะทำอะไร”

ตะวันจับมือโรสรินขึ้นมา เป่าพ้วง ! แล้วยิ้มให้โรสริน

“เดี๋ยวก็หายแล้ว”

โรสรินยังอมยิ้มอยู่ แต่ก็พลันนึกได้

“อะไรๆ โรสริน ยิ้มทำไม นึกถึงเค้าทำไม… หยุดเดี๋ยวนี้เลย”

   โรสรินบ่นตัวเอง ไม่ให้คิดถึงอีตานั่น…

“เฮ้อ… ขนาดแอ๊บทำดีด้วยก็ยังไม่ได้เรื่องอะไร แล้วจะสืบได้เรื่องเมื่อไหร่เนี่ย!”

โรสรินตลบตัวเองลงในผ้าห่ม เวลาสี่ทุ่ม

 

ที่ห้องพักโรสริน นาฬิกาติดผนังบอกว่าเป็นเวลาตีสี่ โรสรินนอนหลับปุ๋ย  ทันใดมีเสียงเคาะประตูดังลั่น ปังๆๆๆๆ !!!โรสรินพลิกตัวเอาหมอนมาปิดหู เสียงเคาะก็ยังดังต่อเนื่อง ปังๆๆๆๆ !! 

“โอ๊ย มันอะไรกันเนี่ย กี่โมงกี่ยามกันแล้วรู้มั้ย!”

โรสรินงัวเงียลุกเดินไปเปิดประตูพลั๊วะ ตะวันยืนอยู่ในชุดพร้อมทำงาน

“นาย?” โรสรินหันไปมองนาฬิกา “ฝัน ? ใช่ เครียดเกินจนเก็บมาฝัน” โรสรินจะกลับไปนอนต่อ

ตะวันดึงข้อมือโรสรินไว้ “นี่มันไม่ใช่เวลามานอนแล้ว!” ตะวันโน้มไปใกล้ “แต่ว่าเป็นเวลา”

โรสรินดิ้น “ปล่อยฉันนะ” โรสรินทุบ จิก ทึ้งตะวัน “ไอ้หูดำ ! บ้ากาม ลามก!” 

ตะวันเขย่าโรสรินให้หยุด “หยุดเพี้ยนซะที! ตกลงยังอยากช่วยงานอยู่อีกรึเปล่า!!”

“หมายความว่าไง!!”

“ความจำสั้นจริงนะ ก็เมื่อตอนเย็น คุณอยากได้โอกาสแก้ตัวไม่ใช่เหรอ”

โรสรินยังเหวอๆ อยู่ โรสรินดึงตะวันไว้

“นี่..นี่ตกลง นาย..ยอมไว้ใจฉันแล้วเหรอ” โรสรินไม่อยากจะเชื่อ

“ขึ้นอยู่กับคุณว่าทำให้ผมเชื่อใจได้รึเปล่า อีก5นาทีเจอกันที่หน้าโรงดอกไม้”

แล้วตะวันก็เดินออกไปเลย โรสรินครุ่นคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ 

“เยส!!! แล้วนายจะได้รู้พิษสงที่แท้จริงของฉัน!”

ที่หน้าโรงเรือนดอกไม้ โรสรินหน้ายังสะลึมสะลือ ลืมตายังแทบจะไม่ขึ้น! ตะวันเดินเข้ามายัดแก้วน้ำใส่มือโรสริน

“ดื่มซะ จะได้ดีขึ้น”

โรสรินเบลอๆ ก็เลยยอมทำตามสั่ง ดื่มไปหนึ่งอึก แล้วก็ตาโต หน้าเหยเกเปรี้ยวสุดใจขาดดิ้น 

“อ๊ายยย! นี่นายเอายาพิษให้ฉันกินเหรอ!”

“อย่าเว่อร์ ก็แค่น้ำมะนาวเพียวๆ คั้นสดๆ ไง ตื่นแล้วใช่มั้ย”

“แล้วถ้ามันกัดกระเพาะ ฉันตายไปจะว่าไง!”

“โธ่ คุณ ไม่มีใครตายเพราะกินน้ำมะนาวหรอก เฮอะ!”

โรสรินเห็นตะวันเผลอก็ยื่นแก้วกรอกปากตะวันให้กินน้ำมะนาวซะเลย ตะวันหน้าเหยเกเปรี้ยว โรสรินยิ้มสะใจได้เอาคืน

“นี่คุณ!!!” โรสรินย้อน “ไม่มีใครตายเพราะกินน้ำมะนาวหรอกน่า”

“ผมจะพาคุณไปดูงานในไร่ งานของเราจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ทุกวัน คุณจะต้องดู! ฟัง! และลองทำให้เป็น  ตามผมมา”

ตะวันเดินออกไป หน้ายังเปรี้ยวววไม่หาย โรสรินอมยิ้มสะใจ

 

ตะวันตระเวนพาโรสรินไปสอนงานตามจุดต่างๆของไร่ดอกไม้

ที่โรงกล้วยไม้ ตะวันสอนวิธีใช้ฟ้อกกี้ฉีดรดน้ำกล้วยไม้ที่แขวนไว้อย่างทะนุถนอมและสั่งให้โรสรินสังเกตวิธีการ โรสรินบ่นๆ ไม่ให้ตะวันได้ยิน

“ฉันล่ะเกลียดดอกกล้วยไม้ที่สุด ได้กลิ่นก็จะ” โรสรินทำท่าอ้วก 

โรสรินครุ่นคิด อมยิ้มเจ้าเล่ห์ 

 

ภาพในความคิดของโรสริน

โรสรินแอบหยิบขวดยามีตรารูปหัวกระโหลกไขว้มาเติมใส่ฟ๊อกกี้ ยิ้มร้าย หึๆๆๆ แล้วฉีดยาพิษเข้าหน้า ตะวัน ตะวันกรีดร้องและล้มลง โรสรินหัวเราะอย่างสะใจ

 

ตะวันสะกิดโรสรินที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ตื่นจากภวังค์

“ยิ้มอะไร” ตะวันยื่นฟ้อกกี้ให้ “ทำงาน!”

โรสรินไม่อยากทำ แต่ต้องยื่นมือรับฟ้อกกี้มา ตะวันคอยจิกอยู่ด้านหลัง ว่ารดไม่ค่อยโดนเลย อย่างงั้นอย่างงี้ โรสรินอดทนๆๆๆ โรสรินกำหมัด บอกตัวเอง “สืบ! เราทำเพื่อสิ่งนั้น ทนไว้ๆๆ”

 

ที่ไร่กุหลาบ ตะวันสอนวิธีตัดดอกไม้ให้สดและไม่ช้ำ จ้ำจี้จ้ำไชโรสรินให้ทำ อย่างมัดทะแมง จับอุปกรณ์ให้ถูกต้อง โรสรินมองไปทางตะวันแล้วยิ้มร้ายๆ

 

ภาพความคิดของโรสริน โรสรินง้างกรรไกรขึ้น ถือกรรไกรวิ่งเข้าหาตะวัน ฉับ ! ฉับ !ฉับ !ฉับ ! เสื้อผ้าตะวันถูกตัดแหว่งวิ่นไม่เหลือสภาพ!! โรสรินง้างกรรไกร วิ่งเข้าไปหาตะวันอีกครั้ง!!คราวนี้นายตาย !!

 

โรสรินยิ้มสะใจในความคิดของตัวเอง แต่ ป๊อก ! ตะวันดีดนิ้วใส่หน้าผากโรสริน 

“โอ๊ย” โรสรินข่มอารมณ์ “ก็แค่เหม่อ พูดกันดีๆ ก็ได้นี่นา”

“ตั้งใจดู ฟัง จำหน่อยสิคุณ ถามจริง…มัวคิดอะไรอยู่”

“เปล๊า!” 

“เอ้า ลองตัดดอกกุหลาบดู อย่าให้ช้ำล่ะ เข้าใจมั้ย”

แล้วตะวันก็เดินไปนั่ง มองดูโรสรินไม่ให้คลาดสายตา โรสรินบ่น

“สั่งได้สั่งดี คอยดูเหอะ ถ้าตายใจเมื่อไหร่ฉันจัดชุดใหญ่ให้แน่!”

โรสรินจัดการตัดดอกกุหลาบใส่ตะกร้า ตะวันมองยิ้มๆ

“ยัยคุณหนูตัวร้าย ก็เชื่องได้เหมือนกันแฮะ”

 

ที่โรงเรือนดอกไม้ เสียงตะวันดังลอดออกมา

“มันก็สำคัญไปหมดนั่นแหละ!”

ตะวันตัดแต่งกิ่งของดอกไม้ที่ใบทึบเพื่อให้ใบมีความโปร่ง เล็มไปพูดไป โรสรินกระแซะใกล้ๆ

“แต่มันต้องมีสิ่งที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดในไร่นี้ !”

“รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวดดินต้นไม้ก็สำคัญ การเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับปลูกและเพาะกล้าก็สำคัญ การตัดแต่ง เล็มกิ่งก้านนี่ก็สำคัญ การรักษาอุณหภูมิ ดูแสง ดูความชื้น ป้องกันแมลงและโรคก็สำคัญ”

“ก็รู้ แต่อะไรล่ะ ที่สำคัญที่สุดสำหรับนาย”

ตะวันแปลกใจ 

“ผมว่าคุณสนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก่อนดีกว่า ไปหยิบกรรไกรตรงโน้นมา แล้วมาหัดตัดนี่”

โรสรินเซ็ง หลอกถามไม่สำเร็จ เดินไม่ระวังหัวโขกกับชั้นหรือเสาอะไรสักอย่าง

“โอ๊ย!!”  โรสรินเซจะล้ม ตะวันปราดเข้ามาพยุงไว้

“ซุ่มซ่ามจริงๆ เลย โอเคมั้ย”

“โน้ว!”

“ใช่ แล้วหัวก็โนด้วย เฮ้อ” ตะวันเปิดดูหน้าผากโรสรินเห็นเป็นรอยแดง ก็นวดให้ “เจ็บมากมั้ย” 

ตะวันบ่นไปพลาง นวดหน้าผากให้โรสรินอย่างเป็นห่วง  ตะวันดูแลโรสรินเหมือนดูแลเด็ก โรสรินเจ็บเลยยอมให้ตะวันนวดไปเรื่อยๆ…และแล้วทั้งสองคนก็เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง เหล่าคนงานแถวนั้นต่างมองมาที่ตะวันและโรสรินเป็นตาเดียว ตะวันและโรสรินชะงัก รีบผละร่างออกจากกัน ตะวันมองกวาดไปที่เหล่าคนงาน ทุกคนรู้ตัวรีบก้มหน้าก้มตากลับไปทำงานดังเดิม ตะวันหันมาส่ายหน้า โรสรินรู้สึกในอกมีอาการบางอย่างแปลกๆ แต่พยายามไม่สนใจ ตัดดอกไม้ต่อ

“ทำยังไงถึงจะล้วงความลับ หาจุดอ่อนนายตะวันได้นะ”

 

พีระและอุษาวดี แอบมองน้ำค้างที่กำลังจัดดอกกุหลาบเพื่อเตรียมส่งขาย พีระพูดกับอุษาวดี

“หึหึหึ ไม่ต้องไปเค้นเอาจากนายตะวันหร๊อก คนอื่นในไร่ก็ต้องรู้”

“แล้วเค้าจะยอมบอกเราเหรอ?”

พีระเดินเข้าไปหาน้ำค้าง อุษาวดีเดินตามไป

“อะแฮ่ม” น้ำค้างไม่หันไปมอง

“อะแฮ่มๆๆๆ! หูหนวกรึไงแม่คุณ” น้ำค้างไม่หันมามอง

“คนแถวนี้ไม่มีใครชื่ออะแฮ่ม”

“มุขเยอะจังนะ เออนี่เธอ ฉันถามอะไรหน่อย”

“แถวนี้ก็ไม่มีใครชื่อหน่อย”

“คุณน้ำค้าง ฉันอยากรู้ว่าที่เนี่ยมันสร้างมานานเท่าไหร่แล้ว แล้วอะไรเหรอที่นับว่าหัวใจสำคัญของที่นี่”

น้ำค้างหันมา “แล้วคุณจะถามไปทำไม”

“ก็…ก็…ฉันเห็นว่ามันสวยดีไง ฉันก็เลยอยากรู้ ไม่ได้รึไง”

น้ำค้างจ้องพีระไม่วางตา ด้วยความสงสัย

“ฉันน่ะไม่รู้หรอก แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ต้องไปถามคนคนนี้”

พีระและอุษาวดี ยิ้มให้แววตาใสซื่อ

 

พีระและอุษาวดี มองอาทิตย์ที่กำลังวาดรูประบายสีอยู่ข้างๆ อึ่ง พีระพูดกับน้ำค้าง

“ให้ฉันถามเด็กนี่เนี่ยนะ”

“จะได้เรื่องเหรอคะ?? “

“คุณทิตย์น่ะ ไอคิว160 เลยนะ รู้ทุกเรื่องทุกอย่างในไร่นี้ จริงมั้ย อึ่ง”

น้ำค้างหันไปสบตาอึ่ง แล้วก็ขยิบตาส่งซิกกัน

“จริงจ้า ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับไร่ตะวัน คุณอาทิตย์ตอบได้โม๊ดเลย”

“เข้าประเด็นเลยละกัน“ พีระพูดกับอาทิตย์ “ในไร่ตะวันอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

อาทิตย์ไม่ตอบ สนใจแต่ระบายสี

“แหม ถ้าอยากได้คำตอบจากอาทิตย์ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนหน่อยรึไงจ๊ะ”

“แลกเปลี่ยน???” พีระหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา “เอาเท่าไหร่”

“คนในเมือง พูดกันด้วยภาษาเงินอย่างเดียวเลยใช่มั้ย”

“แล้วต้องการอะไรล่ะ”

น้ำค้างยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ 

 

ภายในบ้านตะวัน อึ่งและน้ำค้างหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง พีระหน้ามุ่ย หน้าตาเลอะไปด้วยสี อาทิตย์วาดหน้าพีระเป็นหน้าแมว

“เต็มที่เลยนะอาทิตย์ น้าเค้ายอมให้วาดหน้าได้ ไม่ต้องกลัวโดนดุนะ”

“ร้องเหมียวๆ ด้วยสิคะ ถ้าถูกใจอาทิตย์ เค้าถึงจะตอบคำถาม”

“แค่นี้ก็เยอะเกินไปจนไม่รู้จะเกินยังไงแล้ว ฉันไม่บ้าทำอะไรแบบนั้นหรอก”

“ตามใจ งั้นก็ไม่ต้องรู้คำตอบ อาทิตย์อย่าตอบคำถามนะ”

“ยอมๆ เถอะพี่พี ไหนๆ ก็ยอมมาซะขนาดนี้แล้ว” 

พีระทำท่าแมว “เมี้ยววววว  เมี้ยววววว หง่าวววว”

“เดินแบบแมวด้วยสิ ร้องเฉยๆ ได้ไง”

พีระยอมลงไปเดินแบบแมว น้ำค้างขยิบตาให้อึ่ง อึ่งวิ่งไปโดดคร่อมนั่งหลังพีระทันที พีระหลังแอ่น กัดฟันกรอดๆๆๆ น้ำค้างและอึ่งหัวเราะกันอย่างชอบใจ แต่อาทิตย์ไม่ได้ขำกับคนอื่นเขา

พีระท่องเบาๆ “เพื่อคุณโรส ๆๆ อดทนไว้ๆ”

พีระกัดฟันยอมที่สุดในชีวิต! น้ำค้างหัวเราะ ขำ สะใจ

 

ที่โรงเรือนกล้วยไม้ โรสรินเดินไปบ่นไปอย่างอารมณ์เสีย

“นู่นก็สำคัญ นี่ก็สำคัญ แล้วอะไรล่ะที่สำคัญที่สุด!”

โรสรินเดินมาเห็นโรงเรือนกล้วยไม้ สะดุดตากับป้ายที่เขียนตัวแดงชัดๆ ว่า”บุคคลภายนอกห้ามเข้าโดยเด็ดขาด” 

 “โรงอื่นไม่เห็นห้าม แต่ทำไม” โรสรินคิดแล้วเดินเข้าไปใกล้ ตัดสินใจจะผลักประตูเข้าไป แต่ตะวันเปิดประตูสวนออกมาพอดี!!! 

“เข้ามาทำไม ป้ายก็เขียนบอกว่าห้ามเข้า” ตะวันดุ โรสรินอึ้ง 

“หมาแม่ลูกอ่อนรึไงนายเนี่ย! ดุทำไม ฉัน.. ฉันก็แค่ แค่… จะมาหากาบมะพร้าวเพิ่ม เอามาทำปุ๋ยไง”

“ในนี้ไม่มีหรอก เดี๋ยวผมพาไปเอง”

ตะวันล็อกประตู คล้องโซ่ลงกลอนแน่นหนา โรสรินมองอย่างสนใจ

“ในนั้นมีอะไรเหรอ”

“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ ถ้าผมไม่อนุญาต ก็ห้ามเข้า เข้าใจมั้ย!!!” 

ตะวันสั่งเฉียบขาดสีหน้าเอาจริง เดินนำและเร่งให้โรสรินเดินตามมา โรสรินอดหันไปมองอย่างสงสัยไม่ได้

 

ภายในบ้านตะวัน อุษาวดีมองหน้าแมวเหมียวบนหน้าของพีระอย่างเอือมๆ

“อุตส่าห์หลอกถามความลับ แต่ดันโดนแกล้ง จนไม่รู้เรื่องอะไรซะงั้น!”

“สามพี่น้องนั่นทำแสบนัก เดี๋ยวมีเอาคืนแน่!”

โรสรินเดินยิ้มเข้ามา พีระและอุษาวดีหันไปมอง โรสรินมองหน้าพีระ

“ไม่มีอะไรทำรึไง ถึงวาดหน้าตัวเองเล่นแบบนั้น”   

“เรื่องมันยาวน่ะโรซี่ คุณหายไปไหนมา ผมพยายามช่วยคุณสืบเรื่องด้วยนะ”

โรสรินยิ้ม “ไม่ต้องแล้วล่ะ” พีระและอุษาวดีชะงัก

“เพราะว่าตอนนี้ โรสรู้แล้วว่าอะไรที่เป็นจุดอ่อนของไร่ นายตะวันนายเสร็จฉันแน่ !!!” โรสรินยิ้มร้าย 

 

ด้านนอกโรงกล้วยไม้ โรสริน พีระและอุษาวดีกำลังแอบมองตะวันที่อยู่ข้างใน โรสรินพยามยามหาช่องโหว่แอบมอง “มองไม่เห็นเลย นายตะวันอยู่ไหนนะ” ได้ยินแต่เสียงตะวัน 

“วันนี้สวยกว่าเมื่อวานอีกนะ… ขอจูบทีสิ”  

โรสริน พีระและอุษา ชะงัก

“ชัดเลย!!! มันแอบพาผู้หญิงมาบึ้ดจ้ำบึ้ดแน่ๆ”

“บ้า! ไม่ใช่มั๊งพี่พี.. ถ้าจะทำ…เอ่อ… คงไม่มาทำอะไรกันในนี้หรอก…มั้ง”

เสียงตะวันลอดออกมา “ชื่นใจ… จูบอย่างเดียวไม่พอแล้วขอจับหน่อยนะ”

โรสริน พีระและอุษาชะงักอีกรอบ 

“ได้ยินมั้ย ทั้งจูบ ทั้งจับ ไอ้นี่มันร้ายจริงๆ นะโรซี่”

โรสรินรับไม่ได้ “ธาตุแท้แตกบึ้ม ทำเป็นวางมาดที่แท้ก็หื่นจัด อี๊”

เสียงตะวันลอดออกมา ”ทนไม่ไหวแล้ว ขอเปิดดูหน่อย โห อวบอึ๋มใหญ่มาก… จูบแล้วนะ”

โรสรินหน้าร้อนฉ่า โรสรินรับไม่ได้จะร้องออกมา

พีระปิดปากโรสไว้ “อย่า โรซี่! เดี๋ยวมันรู้ว่าเรามาแอบดู”

โรสรินสลัดพีระออกได้ ด่าเป็นชุด แต่เสียงไม่ดัง 

“หื่นกาม ตัณหาจัด แล้วทำมาเป็นสั่งสอนคนอื่น ทุเรศที่สุด”

อุษาวดีชะโงกดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น พีระดึงตัวน้องสาวออกมา

“ยัยอุษา เรานี่ก็! โรส… แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเนี่ย เป็นสถานที่พลอดรักของมัน!”

“มิน่าถึงหวงนักหวงหนา ถ้าเราจัดการโรงกล้วยไม้นี่ได้ มันทนโรสไม่ไหวแน่”

“หึหึหึหึ ถูก!!! ปะ  ไป วางแผนกันเหอะ!!!”

โรสรินยังฮึดฮัด ทำท่าจะไม่ยอมกลับ  พีระลากตัวสองสาวออกไป

 

ภายในโรงเรือนกล้วยไม้ตะวันเปิดดูดอกกล้วยไม้ที่โดนใบบังเอาไว้ เป็นดอกที่โตมากๆ ตะวันหอมดอกกล้วยไม้อีกที แล้วยิ้ม ประทับใจความหอม

“หอมชื่นใจ ใหญ่กำลังดี”

ตะวันเดินไปดูดอกอื่น ทั้งหอมทั้งดม จับอย่างชื่นชมและมีความสุขมาก

 

ภายในห้องนั่งเล่นบ้านตะวัน น้ำค้างกำลังนั่งสอนการบ้านอึ่งกับอาทิตย์ ชาญสีหน้าไม่พอใจ 

“ดูดู๊ เย็นย่ำขนาดนี้ มันยังไม่ออกจากโรงกล้วยไม้อีก มีผู้หญิงสวยๆ อย่างหนูโรส มาอยู่ที่บ้านนี้ทั้งคน ดันสนใจแต่ดอกไม้ใบหญ้า เฮ้อ”

“แล้วจะสนใจเรื่องชาวบ้านเค้าไปถึงไหนจ๊ะปู่” อึ่งพูดลอยๆ 

“ถึงไหนถึงกันสิวะ!” ชาญสะดุ้งโหยง “นังอึ่ง! เอ็งว่าใครวะ”

 น้ำค้างขำ “แทงใจเหรอคะปู่ เด็กมันก็งี้แหล่ะค่ะ พูดในสิ่งที่คิด”

น้ำค้างหันไปกระซิบกับอาทิตย์และอึ่ง

“พี่น้ำค้างก็คิดนะแต่ไม่พูด”

“นังน้ำค้าง! ได้ยินนะ”

“ไม่เอาน่าปู่ วันนี้แค่พี่ตะวันยอมสอนงานให้พี่โรสก็เหลือเชื่อแล้ว จะให้พี่เค้าเลิกสนใจโรงกล้วยไม้นั่นน่ะ ปู่ก็รู้ว่ามัน”

 “เป็น-ไป-ไม่-ได้” น้ำค้างและอึ่งเน้น อาทิตย์ไม่พูด แต่ส่ายหน้าด้วย

“เออ ข้าก็บ่นไปอย่างงั้นเอง ใครๆ ก็ว่ารู้ตะวันมันหวงที่นั่นมาก ใครแตะต้องได้ที่ไหน!”

ปู่กอดอก ต้องยอมแพ้อย่างฉุนๆ น้ำค้างแอบยิ้มกับความจริงจังของปู่

 

ที่หน้าห้องนอนโรส พีระ อุษาวดีและโรสรินปรึกษากัน

“พรุ่งนี้ค่อยเริ่มแผนแต่เช้า แล้วกลางคืนพวกเราจะลงมือ”  

“ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้อีกเด็ดขาด แยกย้ายได้แล้ว”

โรสรินจะเข้าห้อง พีระขวางไว้

“นอนคนเดียวน่ากลัวจะตาย เปลี่ยวๆ ป่าๆ แบบนี้ อาจจะมีผีก็ได้”

“อย่าเว่อร์ ผีเผออะไร ลองมาสิจะเหวี่ยงเข้าให้”

“แน่ะ ลบหลู่อีกเดี๋ยวก็เจอผีป่าหรอก เพื่อความชัวร์ พีนอนเป็นเพื่อนโรซี่เอง ไป”

พีระทำท่าจะเข้าห้องโรส โรสจ้องหน้า

“ผีป่าไม่มีหรอก แต่ผีทะเลมีแน่ๆ” โรสรินเหวี่ยง  “เดี๋ยวเหอะ อยากให้โรสจี๊ดส์รึไง ห๊ะ”

“ ก็คนเค้าเป็นห่วง อย่าจี๊ดส์นะ คนดีของพี”

“กลับไปได้แล้วพีนั่นแหล่ะ ไปเลย” โรสรินดุ 

พีระทำท่าจะอ้อยอิ่ง อุษาวดีเลยช่วยดึงตัวพี่ชายออกไป

 

โรสรินรีบปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว

“เฮ้อ..วุ่นวายจริงๆ” โรสรินเดินมานั่งที่เตียง เสียงของตะวันแว่บขึ้นมา

“ขอจูบทีสิ … ขอสัมผัสหน่อยนะ … โห อวบอึ๋มใหญ่มาก”

โรสรินเอามือขึ้นมาปิดหู ทนไม่ได้ อ๊ายยย

“ซ่อนผู้หญิง คนไหนไว้เนี่ย”  โรสชะงัก “เอ๊า แล้วทำไมเราต้องไปนึกถึงด้วย บ้ารึไง” 

 

ไร่ตะวันยามเช้า โรสรินขอชาญไปตลาด 

“แหมไม่ได้หนีกลับกรุงเทพซะหน่อย แค่ไปตลาดแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้ ! แต่ไปแล้วต้องรีบกลับมานะ”

โรสริน พีระ และอุษาวดีดีใจ  หันหลังจะเดินออกไป ตะวันเดินรี่เข้ามา

“ไม่ได้!”

“เสียใจ คุณปู่ของนาย อนุญาตแล้ว” โรสรินลอยหน้าลอยตา 

“แล้วปู่หรือว่าฉันกันแน่ที่ต้องเป็นคนแต่งงานกับคุณถ้าหากว่าคุณหนีออกไปจากไร่ ก่อนครบสัญญา”

“เอ๊ะ! นี่นาย!”

“แต่อุษากับโรสต้องไปซื้อของใช้ส่วนตั๊ว ส่วนตัวเพิ่มนะคะ”

“ผมไม่ห้ามก็ได้ แต่เราต้องไปด้วยกัน” ตะวันจับข้อมือโรสริน

“อย่ามาโดนตัวโรซี่นะ นั่นแฟนฉัน ปล่อย!!!” พีระตีมือตะวัน

ชาญหันไปเห็นแย้ที่หอบปุ๋ยคอกผ่านมาใกล้ๆ ก็ส่งซิกให้แย้ แย้แกล้งเซชนพีระ ปุ๋ยเลอะเต็มตัวพีระ

“เฮ้ยๆ แบบนี้มันหาเรื่องกันนี่หว่า”

“ใจเย็นน่า เดี๋ยวปู่ช่วยเอง มามะ” ชาญเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ด ทำให้เปื้อนหนักกว่าเดิม

“ซุ่มซ่ามจริงๆเลย”

พีระและอุษาวดีวุ่นวายอยู่ หันมาอีกที โรสรินกับตะวันหายไป ชาญขำกิ๊กกับแย้ก่อนจะหันมาทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง

 

ตะวันจูงข้อมือโรสรินเดินดุ่มๆออกมา

“ปล่อยฉันได้แล้ว” โรสรินทำท่ารังเกียจ “อย่าเอามือสกปรกของนายมาจับฉัน”

“มือสกปรก สกปรกยังไง ผมกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือนะคุณ!” 

โรสรินสะดุ้งเฮือก กลัวความลับแตก  “ก็ ก็”

“เออลืมไป… เมื่อกี๊ไปฉี่ยังไม่ได้ล้างมือแฮะ”

“กรี๊ดดด ไอ้บ้าลามก สกปรก!”

ตะวันกางมือทำท่าจะแตะโรสริน โรสรินรีบหลบ ตะวันหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้ง โรสรินเจ็บใจ

 

 

            ที่ตลาด โรสรินเดินหน้ามุ่ยไม่พอใจ มีตะวันขนาบคุมอยู่ไม่ห่าง

“ทำไมต้องตามเป็นเงาขนาดนี้ด้วย ไปห่างๆ ได้มั้ย”

ตะวันยิ้มกวน “ถ้าสิงตัวคุณได้ทำไปนานแล้ว รู้ไว้ซะด้วย”

ห่างออกไป มาลัย มาลีอยู่ที่แผงขายผลไม้ กำลังเต้น ร้องเพลงไปด้วย

“แตงโมแตงโมแตงโม แตงโมลูกโตรสหวาน ใครรับประทาน ถูกอกถูกใจ แตงลูกโตๆ  ฉ่ำๆ ดับกระหาย คลายร้อนมั๊ยจ๊ะพี่จ๋า”

“พี่ขอแตง 2 ลูก ลูกใหญ่ๆ แบบเต็มไม้เต็มมือนะจ้ะ” 

“จัดให้คร๊าคุณพี่”

มาลัยกำลังส่งถุงใส่แตงให้ แต่หันไปเห็นตะวันเดินมากับโรสรินพอดี มาลัยปล่อยถุงแตงหล่นใส่เท้าลูกค้าชาย มาลัยชี้ให้มาลีดู

“แม่จ๋า นั่น ยัยโรส ศัตรูหัวใจของฉัน”

“หน็อย ศัตรูเอ็งมันก็เป็นศัตรูแม่ด้วยเหมือนกัน ไปเลยลูก ไปแย่งคุณตะวันมาเดี๋ยวนี้”

มาลัยรีบวิ่ง แหวกคนเดินตลาด  กระโดดลอยข้ามรถเข็นผัก กระโดดข้ามเข่ง มาโผล่ตรงหน้าทั้งสองคน แล้วปราดเข้าไปเกาะแขนตะวันทันที

“พี่ตะวัน! พาแม่นี่มากินลมชมตลาดได้ยังไง มาลัยไม่ยอมนะ!”

“เธอมาก็ดีแล้ว เชิญอยู่กับแฟนของนายไปเถอะ”

โรสรินวิ่งหนีออกไปทันที ตะวันจะตาม แต่มาลัยฉุดไว้

“เฮ้ย เดี๋ยว อย่าหนีนะ!”

มาลัยรีบกระโดดขี่หลังตะวันหมับ 

“จะไปยุ่งกับเค้าทำไม ไม่ได้ยินเหรอว่าเค้ายกพี่ให้ฉันแล้วนะ”   

“คุณโรส เสร็จแล้วมาเจอผมที่รถห้ามเกินสิบโมง ได้ยินมั้ย!!” ตะวันตะโกน 

โรสรินวิ่งออกไป หันมายิ้ม

“ไม่มีใครขวางฉันได้แล้ว นายตะวัน… ทีนี้แหละ! หึหึหึ” 

 

ที่ตลาด ในร้านเฟอร์นิเจอร์ เดชาขยี้เช็คแล้วปาลงกับพื้น! 

ล่ำตบหน้าเถ้าแก่เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์อย่างแรงจนล้มไป

“แกกล้าทำเช็คเด้งใส่หน้าฉันเหรอ”

ล่ำและแหลมเข้าไปกระชากเถ้าแก่ลุกขึ้น

“พวกลื๊อจะทำอะไร อั๊วะ อั๊วะเรียกตำรวจนะ!!”

“คิดว่าตำรวจทำอะไรฉันได้วะ ลืมแล้วเหรอว่าฉันลูกใคร!! ถ้าแกยังลูกเล่นอีก” 

             ดำรงชูปืนขู่”ได้กินลูกปืนแน่” แหลมใช้ด้ามปืนตบเถ้าแก่อีกที เถ้าแก่กระเด็นไป

“วันนี้แค่เตือน แต่วันหน้าถ้าคิดยังไม่ซื่อ ตาย!”

เดชาเดินเหวี่ยงออกมา มีล่ำและแหลมตามมา แต่ต้องชะงัก เพราะเห็นโรสรินเดินสวนไปอีกทาง ท่าทางระแวดระวังตัว เดชามองโรสรินแล้วยิ้ม

 

ที่ตลาด หน้าร้านขายของเกษตร พ่อค้าเดินหอบถุงใส่ของตามโรสรินออกมา 

“หนูจ๊ะ ให้ลุงขนของไปไว้ที่ไหน”

โรสรินคิด “ถ้าไว้ที่รถนายตะวันก็ต้องรู้สิ” 

“ว่าไงล่ะหนู”

โรสรินปรี๊ดใส่ “โอ๊ยยยย เดี๋ยวสิลุง ขอใช้สมองก่อน”

พ่อค้าผงะอย่างกลัวๆ 

“ขนเองแล้วกัน” พ่อค้าวางถุงลงแล้วเดินไป

“อ้าว นี่!  เดี๋ยวสิ จะให้ขนไปเองได้ยังไงล่ะ” โรสรินเดินตามพ่อค้าไปแต่ไม่ทัน

โรสรินเซ็งสุดๆ หันหลังกลับ เห็นเดชายืนถือถุงใส่ของของตนเองไว้ 

เดชาแหวกดูของในถุง “ยาฆ่าหญ้า นี่มันของต้องห้ามในไร่ตะวัน!!!”

โรสรินหน้าเซ็งสุดๆ “โธ่เอ๊ย! แบบนี้ก็ยิ่งเอาเข้าไปในไร่ไม่ได้น่ะสิ”

เดชาคิด ยิ้มร้ายรู้ว่าโรสรินมีแผน “ใช่ครับ คุณไม่มีทางเอาไอ้นี่เข้าไปได้แน่ๆ”

“แต่ฉันจำเป็นต้องใช้มัน”

เดชายิ้ม ”ถ้างั้น…คงต้องให้ผมช่วยแล้วล่ะ” โรสรินครุ่นคิดว่าจะเอาไงดี

 

ที่แผงขายผลไม้ ตะวันดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้สิบโมงแล้ว มาลัยพยายามป้อนผลไม้ให้ตะวัน มือข้างหนึ่งเกาะตะวันแน่น เอาขาเกี่ยวด้วย

“แม่จ๋า ช่วยกันหน่อย”

“สัปปะรดหวานๆ ฉ่ำๆ จ้ะ ว่าที่ลูกเขย” มาลีจิ้มสัปปะรดจะป้อนให้ตะวัน ตะวันส่ายหน้า

“ชาติที่แล้วเป็นตุ๊กแกรึไง ทำไมเกาะหนึบขนาดนี้”

“ถ้าปล่อยให้หลุดมือ ก็โดนยัยคุณหนูโรสงาบไปหม่ำน่ะสิ มาลัยไม๊ยอม”!

ตะวันเสียงเข้ม “มาลัย พี่ต้องกลับไร่แล้ว”

“หือ มาแป๊บเดียวเอง ยังไม่หายคิดถึงเลยอ่ะ”

ตะวันหน้าซีเรียส มาลัยทำแก้มป่อง ยื่นให้  “ถ้าอยากไปก็หอมเค้าก่อน”

ตะวันดุ “มาลัย!”

“ดีลูกจ๋า ถ้าไม่หอมก็อย่าให้หนีไปได้”

“อยากได้หอมใช่มั้ย ได้!”

ตะวันกลั้นใจ เอ้า!ก็ได้ฟระ มาลัยมีความสุขแต่พอลืมตามองต้องสะดุ้งโหยง หอมหัวใหญ่ถูกยื่นมาแปะแก้ม

“น่ารักที่ซู๊ด เย้ยยย ไม่ใช่หอมงี้อ่ะ”

ตะวันฉวยโอกาสตอนมาลัยกำลังเผลอรีบชิ่งออกมาทันที  ก่อนที่เสียงกรี๊ดของมาลัยจะไล่หลังมา

“พี่ตะวั๊น กลับมาก๊อนนน จะเอาหอมพี่ตะวัน ไม่ใช่หัวหอม ฮึ๊ย !!!!”

 

ที่ลานจอดรถ ตะวันเดินมองซ้ายขวา มองหาโรสริน พลันตะวันก็ชะงักไปเพราะเห็นโรสรินกับเดชา ยืนอยู่ใกล้กันดูยุกยิกมีพิรุธแถวท้ายรถกระบะของตะวัน ตะวันเห็นเดชายื่นถุงใส่ของบางสิ่งให้โรสริน สักพักเดชาก็กระซิบกระซาบอะไรโรสรินบางอย่าง ก่อนที่จะเดินออกไป

ตะวันสงสัย  “ยัยโรส เดชา คิดจะทำอะไร!”

โรสรินรีบยัดถุงใส่ท้ายรถตะวันที่มีผ้าใบปิดท้ายกระบะอยู่ ตะวันเดินเข้ามาจากด้านหลัง

“อะไรน่ะ” ตะวันจะแหวกผ้าใบดู “ไหนดูซิ!”

โรสรินเข้าขวางไม่ให้ตะวันดู ตะวันไปขวาก็ดักขวา ไปซ้ายก็ดักซ้าย

“ไม่มี๊”

“นิสัยไม่ดีแล้วยังขี้โกหกอีกนะ!” ตะวันรวบตัวโรสรินไปข้างๆ รีบเปิดผ้าใบดู เห็นท้ายกระบะมีถุงผ้าวางอยู่ ตะวันกระชากมาถือไว้ทันที

“นี่ ไม่มีมารยาท นั่นเดชาเค้าอุตส่าห์ซื้อให้ฉันนะ เอาคืนมา”

“อ๋อ นี่รู้จักสนิทสนมกันแล้วเหรอ คิดอะไรถึงไปยุ่งกับไอ้คนแบบนั้น”

“แบบไหน !!!ยังไงเค้าก็ไม่นิสัยแย่ บ้าอำนาจเหมือนนายหรอก”

ตะวันไม่สนล้วงมือดึงของในถุงออกมาดู ปรากฏว่าเป็นชุดสวยๆหลายชุด

“ขอโทษนะ” โรสรินยิ้มกวน “พอดีว่าอยู่เฉยๆ ก็สวย ผู้ชายก็อยากซื้อของให้”

ตะวันทำท่าไม่ยอมคืนชุดให้โรสริน 

“ไร่ตะวัน ไม่มีเวทีเดินแบบ ไม่ต้องแต่งตัวสวยไว้อวดใคร”

โรสรินคว้าถุงชุดเดรสจากมือตะวันทันที โรสรินชี้หน้าตะวัน

“ฉันมีชุดเน่าๆ เก่า ของนายแค่สองชุด ยังมีหน้ายึดอีกเหรอ เดี๋ยวเหอะ!”

โรสรินกระชากถุงเสื้อมาได้  “ฉันเสร็จธุระแล้ว กลับกันได้รึยัง”  (หันหลังจะไป)

ตะวันมองสงสัย “ เดี๋ยว!” ตะวันคว้าแขนโรสรินไว้ “แล้วไหนว่ามาซื้อของสำคัญ”

“ก็” มีพิรุธ)

ตะวันเห็นถุงเล็กๆอีกถุงในมือโรส จึงเข้ไปาดึงถุงเล็กจากมือโรส “ในนี้ซ่อนอะไรเอาไว้”

“นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ ฉันจะฟ้องปู่นายด้วย”

“เชิญ!” 

“ถ้าไม่มีอะไรนายต้องขอโทษฉันห้าสิบคำ”

“ได้ ! ให้ห้าร้อยคำเลย!”  ตะวันเปิดกระเป๋าออกมาเจอบางอย่าง “ไหนว่าไม่มี แล้วนี่อะไร”

ตะวันดึงของในถุงออกมาดู ปรากฏว่าเป็นชุดชั้นใน อ่ะเจ้ยเฮ้ย !

“เต็มตาแล้วใช่มั้ย” โรสรินรีบเก็บเข้าไปไว้ในกระเป๋าถือ

“ถ้านายไม่ขอโทษฉัน ฉันจะแฉความลามกของนายกับทุกๆ คน!”

ตะวันเจอไม้นี้เข้า เหวอไป โรสรินยิ้มอย่างสะใจ

 

 

          ภายในรถตะวัน โรสรินยิ้มสะใจ ได้ทีข่มตะวันได้

“กระซิบกระซาบอะไร ไม่ได้ยิน ดังๆ สิ

ตะวันข่มใจตอบ “ขอโทษครับ!”

“นี่ แค่คำที่ร้อยสิบเจ็ด เสียงก็เริ่มจะเบาแล้วนะ”

ตะวันเค้นเสียงอย่างแค้น “ขอโทษครับ ขอโทษครับ ขอโทษครับ!”

“ยังเหลืออีกสามร้อยแปดสิบคำ จัดมาให้มันไวๆ”

ตะวันสุดจะแค้น แต่ต้องยอม ส่วนโรสรินแอบโล่งอก

“ดีนะ ความไม่แตก”

 

ภายนอก รถตะวันแล่นไปบนถนน มีเสียง “ขอโทษครับๆๆๆๆ ” ดังลอดออกมาตลอดทาง

 

ณ มุมสวยๆ ที่บ้านตะวัน แย้ยื่นขวดยาน้ำจิบแก้เจ็บคอให้ตะวัน ตะวันดูกลืนน้ำลายลงคอลำบาก

“อ่ะ  ยาแก้เจ็บคอ”

“เออ ขอบใจ”

ตะวันเปิดฝาทำท่าจะจิบ

“แล้วนี่ไปร้องคาราโอเกะที่ไหนมา เสียบแหบเสียงแห้ง”

“ไปๆ ไปทำงาน ถามซอกแซ่กอยู่ได้”

ตะวันเตะตูดแย้ให้เดินออกไป แย้ยอมเดินออกไป จากนั้นตะวันก็เปิดขวดยาเพื่อจิบ แต่พอหันไปก็ต้องชะงัก สำลักพรวดไอแค่กๆ ทันที เพราะเห็นโรสรินอยู่ในชุดเดรสที่เดชาซื้อให้ สวยสง่าออร่ามากๆ โรสรินหมุนตัวพลิ้วๆ โชว์ตะวัน

“ขอโทษนะที่ความสวยของฉันทำนายสำลัก ชุดของเดชาเก๋ดีนะ นายว่ามั้ย”

“นี่ไม่ใช่ชุดทำงาน กลับไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”

โรสรินลอยหน้าลอยตา 

“เพิ่งซักยังไม่แห้ง  ฉันจะใส่ชุดนี้ ชุดที่คนใจดีอย่างเดชาซื้อให้ มีปัญหาอะไรมั้ย

“คำก็เดชา สองคำก็เดชา ถ้าคุณรู้จักเค้าเหมือนที่ผมรู้จัก ผมเชื่อว่าคุณต้องเผาไอ้ชุดนี่ทิ้งแน่”

“นายนี่มันใจคับแคบเอาแต่คิดไม่ดีกับคนอื่น  ฉันไม่เห็นว่าเค้าจะร้ายกับฉันตรงไหน”

ตะวันเดินเข้าไปใกล้ๆ “ผมเตือนคุณแล้วนะ อยู่ห่างๆ นายนั่นไว้”

โรสรินเชิ่ดหน้า สะบัดหน้าใส่อย่างไม่สนแล้วเดินออกไป ตะวันมองตาม รู้สึกเป็นห่วง… 

 

ที่มุมรั้วด้านหนึ่งของไร่ตะวัน โรสรินเดินเข้ามา มองซ้ายขวา เห็นว่าไม่มีใครเดินตามมา

อีกมุมหนึ่ง  เดชา ล่ำและแหลมเปิดรั้วเข้ามา เในมือล่ำและแหลมถือถุงใส่ยาฆ่าหญ้า เดชาเห็นโรสรินในชุดที่เขาซื้อให้

“นั่นมันชุดที่เสี่ยซื้อให้นี่ครับ”

“มีใจชัวร์ๆ”

เดชาแอบชอบใจ แต่รีบทำเก๊ก ถองศอกใส่แหลมก่อนเดินเข้าไปหาโรสริน โรสรินหันไปเห็นเดชาเดินเข้ามา   ล่ำแหลมยื่นถุงใส่ยาฆ่าแมลงให้โรสริน

“ขอบใจนะ ที่อุตส่าห์เป็นธุระให้” โรสรินรีบเดินหนีทันที แต่เดชาไว ฉวยมือโรสรินไว้ โรสรินชะงักมองที่มือ เดชารู้จากสายตาว่ายังไม่ถึงเวลา เดชาปล่อยมือออก

“ไม่นึกว่าคุณจะรีบร้อนขนาดนี้ ไม่คิดจะตอบแทนกันบ้างเหรอ”

โรสรินย้อนกลับ  “ก็เห็นคุณบอกว่า ยินดีที่ได้ช่วยเหลือฉัน”

“ก็ใช่ครับ แต่ผมคงจะยินดีมากขึ้น ถ้าได้รับประทานอาหารกับคุณสักมื้อ”

เดชาขอตรงๆ จ้องตาอย่างไม่อยากให้โรสรินปฏิเสธ โรสรินเห็นแววตาที่มุ่งมั่นแกมบังคับของเดชา ก็ตัดรำคาญ

“ก็ได้แต่หลังจากที่ฉันเสร็จธุระก่อน”

“ถือว่าเป็นคำสัญญานะครับ” 

โรสรินยักไหล่เชิดๆ เดชายิ้มอย่างพอใจ แล้วเดชา ล่ำและแหลม ก็เปิดรั้วเดินออกไป 

โรสรินเบ้หน้า “ฝันไปเหอะย่ะ”

ไม่นานนักพีระกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา

“โรซี่ เรียบร้อยดีมั้ย คุณได้ของมารึเปล่า”

โรสรินยิ้มร้าย “ไม่พลาดอยู่แล้ว เริ่มแผนของเราได้เลย! “

พีระหยิบแกลอนยาขึ้นมา “คืนนี้แหละไอ้นายตะวัน”

 

บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย

บทโทรทัศน์ : พลพล



 

 
 

ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง
     Facebook.com/TVSociety