รีเซต

บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 11 หน้า 4

บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่  11 หน้า 4
Pannaput_tvs
17 สิงหาคม 2559 ( 12:16 )
186.5K
บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 11
13 หน้า

“ใครขโมยของของใคร ยังไม่แน่ใจ”

หญิงทั้งสองคนยื้อแย่งกันรุนแรงขึ้น...ฝ่ายที่มีห่อผ้าในอ้อมแขนออกแรงผลักจนอีกคนเซล้มลงกับพื้น.. เปิดให้เห็นของที่ยื้อแย้งกันคือเด็กทารกในห่อผ้า เด็กแหกปากร้องเพราะตกใจ

อุษาตกใจที่เห็นว่าสิ่งที่ยื้อแย้งกันอยู่คือเด็กทารก “เทวะ...นั่นมันไม่ใช่สิ่งของสักหน่อย”

อุษามัวตกตะลึง ยังไม่ทันขยับ..เกศอาภาก็แทรกผู้คนฝั่งตรงข้ามอุษามุดออกมากลางวง“หยุดเดี๋ยวนี้นะ หากเด็กพลัดหลุดมือไปจะเป็นอย่างไร ข้าบอกให้หยุด” หญิงทั้งสองคนชะงัก“พวกเจ้าทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเรื่องไร”

หญิงคนแรกเอ่ยขึ้น “นางผู้นี้มาแย่งลูกชายไปจากข้า”

หญิงคนที่สองสวน “เด็กคนนั้นเป็นลูกของข้า”

หญิงคนแรกเถียง “โกหก  ข้าคลอดเด็กคนนี้ เลี้ยงเด็กคนนี้มาด้วยน้ำนมของข้าเอง แล้วจะเป็นลูกของเจ้าได้อย่างไร”

หญิงคนที่สองกล่าวหา “เจ้าขโมยลูกไปจากข้า”

หญิงคนแรกด่า “นังบ้า นังคนเสียสติ ลูกเจ้าอยู่ไหนก็ไม่รู้ จักมาอ้างว่าเป็นลูกเจ้ามักง่ายเกินไปแล้ว”

หญิงคนที่สองกรีดร้อง ถลันเข้าหาหญิงคนแรก เพื่อแย่งชิงเด็กอีกรอบด้วยความโกรธ

ก่อนเหตุการณ์จะรุนแรง ลุกลามใหญ่โต เกศอาภาตวาดด้วยเสียงเฉียบขาด “หยุดเดี๋ยวนี้...ข้าบอกให้หยุด”

 

เรือนสูริยะ  เด็กถูกวางอยู่ในเบาะตรงหน้าสูริยะ แม่ทั้งสองคนคุกเข่าอยู่กลางลาน

สูริยะซัก “เกิดเรื่องเยี่ยงนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน”

หญิงคนแรกชิงฟ้อง “นางผู้นี้เป็นหญิงบ้า สติฟั่นเฟือน นางกล่าวหาว่าข้าขโมยลูกนางไป”

หญิงคนที่สองไม่ยอมรับ “ข้ามิได้เป็นบ้า นางผู้นี้ขโมยลูกข้าไปจริงๆ”

ปุณณะกระซิบบางสิ่งข้างหูสูริยะ เกศอาภาลุ้นว่าจะตัดสินยังไง

สูริยะเอ่ย “หากเจ้าทั้งสองยืนยันว่าเป็นแม่ของเด็กคนนี้จริง ไหนลองบอกข้ามาว่าเด็กคนนี้มีตำหนิอยู่ที่ใดบ้าง”

หญิงคนแรกรีบตอบ “ลูกข้า ข้าเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก อาบน้ำให้ทุกวี่ทุกวันลูกข้ามีปานสีแดงที่ท้ายทอย”

พนักงานพลิกดูท้ายทอยเด็กแล้วพยักหน้าให้สูริยะว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“เจ้าคงตอบมิได้ใช่หรือไม่” สูริยะถามหญิงอีกคน

หญิงคนที่สองเอ่ย “ลูกชายข้า มีไฝสามเม็ดเรียงกันที่หลังใบหูซ้าย ท่านโปรดดูให้เห็นกับตาเถิด”

พนักงานพลิกดูหลังใบหูเด็ก แล้วต้องอึ้งก่อนพยักหน้าให้ทุกคนรับรู้

หญิงคนแรกอ้อนวอน “โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด เด็กคนนี้เป็นลูกของข้าจริงๆ”

หญิงคนที่สองไม่ยอมแพ้ “เลือดจากอกข้าอยู่ในตัวเด็กคนนี้ ข้าหายอมไม่หากผู้ใดจักพรากเขาไปจากข้า”

เกศอาภาลำบากใจกับการตัดสิน สูริยะนิ่งไปนานหาข้อสรุปไม่ได้

กัมพูเอ่ย “ต่อหน้าเทวะแลองค์สูริยะ เจ้าทั้งสองกล้าสาบานรึไม่ว่ากำลังพูดความสัตย์จริง”


13 หน้า