บทละครโทรทัศน์ ลิขิตริษยา ตอนที่ 1 หน้า 2
“แต่ฉันไม่เล่นด้วย คนอย่างอีซ่อนกลิ่นถ้าจะมีผัว ต้องได้เจ้าขุนมูลนาย ไม่ใช่คนทำคุณไสยฯอย่างมึง” ซ่อนกลิ่นพูดจบก็สะบัดหน้าพรืด หันหลังเดินออกไปทันที
พรมองตามซ่อนกลิ่นออกอาการเจ็บใจ “โธ่เว้ย ทำเป็นดูถูกกู มึงก็แค่หมอตำแยหากินกับผีเหมือนกันล่ะวะ”
ภายในห้องนอนซ่อนกลิ่นในบ้านทรงไทยหลังเล็ก ซ่อนกลิ่นกำลังเปิดหีบที่วางอยู่ตรงหน้าออกมา พลางหยิบกล่องๆหนึ่งเปิดออกมา มีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น ซ่อนกลิ่นวางเงินลงในกล่องแล้วปิดลง พลันเหลือบไปมองโกฏิอัฐิใส่กระดูกวางอยู่บนหิ้งชั้นบน “แม่คอยดูนะ ถ้าฉันเก็บเงินได้อีกหน่อย ฉันจะไปจากที่นี่ ฉันจะต้องได้ผัวดีมีชีวิตที่ดี ไม่ให้ใครมันมาดูถูกเหมือนที่แม่โดน พวกไอ้อีที่นี่มันจะหายไปจากชีวิตฉัน” ซ่อนกลิ่นมองโกฏิด้วยสายตาเจ็บแค้นอย่างคนมีความหลังฝังใจ
เรือนใหญ่ของหลวงเดชบริรักษ์เป็นบ้านเรือนขนาดใหญ่โอ่โถงสถาปัตยกรรมกึ่งผสมกับศิลปะตะวันตก บริเวณกว้างเต็มไปด้วยเรือนเล็กเรือนน้อยในบริเวณเดียวกัน ดูมีฐานะและมีบริวารมาก หลวงเดชเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในชุดลำลองท่าทางภูมิฐาน นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมหนึ่ง อีกด้านโฉมฉายเมียเอกที่บุคลิกดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแสนหวานเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว และกรองแก้วเมียรองที่แต่งตัวฉูดฉาดดูเปรี้ยวแต่ไม่ถือตัว ทั้งสองเดินประคองพิศเมียสามที่ดูเป็นผู้หญิงบ้านๆแต่งเนื้อตัวเชยๆและดูเจียมตัว เข้ามาหาหลวงเดช ด้านหลังมีเจิมคนรับใช้คนสนิทของโฉมฉายอุ้มเด็กชายบวรยศลูกชายวัย 6 เดือนเข้ามาพร้อมๆกับ อุ่น และพวง คนรับใช้ในบ้านที่หิ้วกระเป๋าหวายใบใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังดูเกรงใจเจิม
หลวงเดชวางหนังสือลงหันไปเห็นเมียทั้งสามก็แปลกใจ “นั่นพิศจะไปด้วยรึ”
พิศหน้าเจื่อนๆด้วยความเกรงใจ“คือ...”
กรองแก้วรีบสวนขึ้นทันที เพื่อตัดบทไปก่อน “ดิฉันเป็นคนชวนพิศไปเองค่ะ”
“แต่พิศท้องแก่ เดินทางไกลแบบนี้จะไม่กระเทือนถึงลูกหรือ”
โฉมฉายหันไปมองพิศที่ดูกังวลก็ช่วยพูดอีกแรง “น้องคุยกับกรองแก้วแล้วว่า เราสองคนจะช่วยกันดูแลพิศเองค่ะคุณหลวง ให้ไปด้วยกันเถอะนะคะ นานๆเราจะมีโอกาสได้ไปพักผ่อนนอกเมืองกันสักที น้องเลยอยากให้พิศไปกับเรา”
หลวงเดชหันไปทางพิศที่ก้มหน้าก้มตาอย่างเจียมตัว “พิศอยากไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้บังคับนะ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร”
“บ่าวแล้วแต่คุณหลวงกับคุณๆเจ้าค่ะ”
โฉมฉายได้ยินก็รีบหันไปดุพิศทันที “พี่บอกแล้วไงว่าให้เลิกแทนตัวเองว่าบ่าว พิศเป็นเมียของคุณหลวง ไม่ใช่บ่าวอย่างแต่ก่อน”
พิศก้มหน้างุดรู้สึกผิด “เจ้าค่ะ คุณโฉม...” โฉมฉายมองด้วยสายตุดุอีก “เอ่อ ค่ะคุณพี่โฉม”