บทละครโทรทัศน์ เพลิงนรี ตอนที่ 7 หน้า 4
กรุงเทพฯ เวลากลางคืน ริมหน้าต่างห้องพักพริริสา พริริสานั่งมองกองเอกสารต่างๆที่แอบรวบรวมมาจากบริษัทบูรพเกียรติที่ตอนนี้ดูไร้ค่าเพราะไม่สามารถทำอะไรได้อีก
มิรายกแก้วเครื่องดื่มอุ่นๆมาให้ “ดื่มซะจะได้หลับสบาย ลืมเรื่องแย่ๆวันนี้ไปให้หมด พวกไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ถ้าอยู่ที่ไทรจีสล่ะก็คนพวกนั้นคง....”มิราแค้นแทนเพื่อนที่ถูกทำร้าย
“คนพวกนั้นคงคิดว่าตัวเองสูงกว่าคนอื่น ยิ่งคิดว่าตัวเองสูงมากเท่าไหร่ วันที่ต้องตกลงมามันก็ยิ่งเจ็บเท่านั้น ฉันยอมทำทุกอย่างก็เพื่อรอดูวันนั้น” พริริสาหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดรูปใบ Order ที่ถูก Cancel ให้มิราดู “ฉันได้ข้อมูลสำคัญมา สถานการณ์ของบูรพเกียรติตอนนี้ไม่สู้ดีเท่าไหร่ ถ้าเรารู้สถานการณ์ที่แท้จริงของบริษัทบูรพเกียรติได้มากกว่านี้ เราก็จะหาทางบีบให้คนพวกนั้นจนตรอก”
“แต่ข้อมูลที่มีตอนนี้ก็ยังสรุปอะไรไม่ได้หรอกนะ จะไปบีบอะไรพวกบูรพเกียรติได้ ที่สำคัญ ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกกลับไปแล้วนะริสา” พริริสาถอนใจ
“เพราะยัยคุณหนูเกรซคนเดียว ยังไงฉันก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ”
“จริงสิ นี่เธอยังไม่ได้บอกเลยนะว่าไปมีเรื่องอะไรกับยัยคุณหนูเกรซจนโดนบีบให้ลาออก”
พริริสาไม่อยากเล่าสาเหตุที่ถูกไล่ออกเพราะถูกหาว่าไปจับธีภพ “เรื่องไร้สาระ”
“ผู้หญิงเราจะมีเรื่องกัน มีไม่กี่สาเหตุหรอกเกี่ยวกับผู้บริหารคนใหม่ที่ชอบมาวุ่นวายกับเธอหรือเปล่า ชื่ออะไรนะ” มิรานึกออก “ธีภพ” สายตาพริริสาแสดงออกมายังโกรธธีภพอยู่ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ยิ่งทำให้มิรามั่นใจ“ฉันเดาถูกใช่ไหม ยัยคุณหนูเกรซหาเรื่องให้เธอออกเพราะหึงเธอกับนายธีภพ”
“พวกชอบมโน ทำเรื่องไร้สาระให้เป็นเรื่องใหญ่”
มิราล้อ “แน่ใจนะว่ายัยคุณหนูเกรซมโนไปเอง ไม่ใช่เรื่องจริง”
พริริสามองมิราอย่างโกรธๆ เข้าไปหยิกแก้มมิรา “เรื่องจริงอะไรกันเล่า ฉันน่ะเกลียดหน้าเขาจะแย่”
“โอ๊ย เกลียดเขาแล้วมาลงกับฉันทำไมเนี่ย”
“แล้วไม่ต้องพูดชื่อนี้อีกนะ ช่วงนี้ไม่อยากได้ยิน”
พริริสาเดินหนีไป มิราอมยิ้ม รู้ว่าพริริสาเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ
ห้องทำงานบ้านธีภพ ธีภพนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีสมาธิ คิดแต่เรื่องที่พริริสาโดนให้ลาออก
พริริสาเดินออกจากห้องไปอย่างเจ็บปวด สวนกับธีภพที่เดินเข้ามา พริริสาไม่มองหน้าธีภพเดินตรงออกไปทันที
วิวรรณเดินเข้ามาดูลูกชาย “ยังไม่นอนอีกเหรอลูก”
“ครับ พอดีมีเอกสารที่ต้องใช้หลายอย่างพรุ่งนี้น่ะครับ”
“ทำไม ไม่ให้เลขาช่วยงานเราบ้างล่ะ”
ธีภพละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์อย่างเหนื่อยๆ “ผมยังไม่มีเลขาเลยครับ”