บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 9 หน้า 5
ทศพลชะงัก รู้สึกใจไม่ดี ราวกับว่าอาจารย์ทัศนัยพูดเป็นลาง “อาจารย์พูดประหลาด เหมือนจะไม่กลับไปพร้อมพวกเรา”
“ผมตั้งใจว่าจะกลับไปตามหาชิ้นส่วนศิลาจารึกส่วนที่ขาดไปที่เทวาลัยร้างนั่นอีกสักครั้ง บางทีมันอาจจะทำให้เรารู้ได้ว่าเมืองมรุกขนครล่มสลายลงเพราะอะไรก็ได้”
“ถ้างั้นอาจารย์ก็ให้พวกผมกับเพื่อนๆ ไปด้วยสิครับ”
“อย่าเลย ผมไม่อยากให้ใครมาเสี่ยงอันตรายอีก ถ้าถนนเข้าหมู่บ้านซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ ผมคงต้องส่งพวกคุณกับเพื่อนๆ กลับกรุงเทพซะที เพราะนี่มันก็เลยกำหนดกลับมานานแล้ว ผู้ปกครองพวกคุณจะเป็นห่วง”
“แต่ที่นั่นมันอันตรายนะครับอาจารย์อาจจะพังลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ งูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ชุกชุม ไหนจะคนของกำนันแย้มที่จับตาดูเราอยู่อีก ถ้าพวกกำนันจับได้ว่าเราเข้าไปยุ่มย่ามที่นั่น คงไม่ปล่อยเราไว้แน่”
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมจะหาทางไปที่นั่นเอง”
“แต่...”
“ถ้าผมเป็นอะไรไป คุณจะช่วยดูแลจัดการเรื่องเทวรูปเจ้าแม่นาคีและหาหลักฐานเกี่ยวกับเมืองมรุกขนครต่อจากผมด้วยนะ รับปากผมสิ...”
“ทำไมอาจารย์พูดอย่างนั้นล่ะครับ”
“ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน ดูอย่างรัตนาวดี กับลุงชมสิ ไม่รู้ว่าใครจะโชคร้ายเป็นรายต่อไป”
ทศพลจำยอมเก็บหงอนรูปปั้นเอาไว้ตามที่อาจารย์ทัศนัยฝากฝัง
สมมาตรกับวันชนะซุ่มอยู่ใกล้ๆ กระท่อมปลายนาที่เดียวกับที่เลื่องถูกงูยักษ์ฆ่าตาย
สมมาตรมั่นใจ “เชื่อฉันสิ งูยักษ์ที่ฆ่าลูกชายกำนันแย้มมันต้องป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ นี้”
“มันจะอยู่ที่ไหนก็ช่างหัวมันเหอะ แกจะจับมันไปออกงานวัดรึไง”
“ฉันอยากช่วยคำแก้ว”
“ช่วยคำแก้ว ? ช่วยยังไงวะ ?” วันชนะแปลกใจ
“ไอ้เซ่อเอ๊ย ! ถ้าเราจับงูที่ฆ่าไอ้เลื่องได้ คำแก้วก็ได้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาของพวกชาวบ้านยังไงล่ะวะ”
“เออ ก็จริง ! จะได้เลิกหาว่าคำแก้วแปลงร่างเป็นงูฆ่าไอ้เลื่องกันซะที แต่แน่ใจนะเว้ย ว่าวิธีนี้ของแกจะจับไอ้งูยักษ์นั่นได้”
ทั้สองจับจ้องไปที่อีหันกับดักงู ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำจากไม้รวก มีไก่สดเป็นเหยื่อล่ออยู่ข้างใน วางในพงหญ้า
“แน่สิวะ นี่แหละกับดักงูภูมิปัญญาชาวบ้าน แถวบ้านฉันเค้าเรียกว่า “อีหัน” พอไอ้งูนั่นมันเลื้อยผ่านอีหันเข้ามากินไก่ มันก็จะเลื้อยออกมาไม่ได้ ต้องเลื้อยบิดไปบิดมาจนถูกไม้รวกคมๆ บาดจนตาย”
“แล้วงูมันจะโง่เข้ามากินไก่ของแกเหรอวะ”