บทละครโทรทัศน์ ทายาทอสูร ตอนที่ 21 หน้า 4
เห็นสุรนิตย์ขยับปากพูด แต่เป็นเสียงของวรินทร์ “คุณยายใหญ่!” วรินทร์ยืนอยู่ข้างเตียงวรนาฎ ก้มหน้าเขย่าตัววรนาฎเพื่อปลุกให้ตื่นจากภวังค์ “คุณยายใหญ่เป็นอะไรคะ เพ้อจนอุ้ยตกใจหมดเลย.... ฝันร้ายเหรอคะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าฝันดีหรือว่าฝันร้าย แต่ยายรู้สึกมีความสุข จนไม่อยากจะตื่นเอาซะเลย”
“ความฝัน ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็ไม่ทำให้เรามีความสุขได้เท่ากับความเป็นจริง อย่างที่คุณยายเล็กบอกไว้”
“แต่ถ้าหลับไป พร้อมกับภาพแห่งความสุข ก็คงจะดีกว่าที่ต้องตื่นมาพบตัวเองในสภาพอย่างนี้”
“คุณยายใหญ่อย่าเพิ่งหมดหวังสิคะ” วรินทร์ยิ้มให้วรนาฎอย่างให้กำลังใจ
เช้าวันใหม่ ที่มหาวิทยาลัย สนทรรศน์กับวรินทร์ยืนอยู่หน้าห้องลงทะเบียนจากทางด้านหลัง สนทรรศน์ส่งเอกสารที่เขียนเสร็จ ส่งให้เจ้าหน้าที่ เก็บปากกาใส่กระเป๋าเสื้อที่หน้าอก แล้วหันมาคุยกับวรินทร์
“อุ้ยเป็นห่วงคุณยายใหญ่จังเลยคะพี่ทรรศน์”
“คุณยายใหญ่เป็นอะไรเหรออุ้ย”
วรินทร์กังวล “ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่จิตใจนี่สิคะ ท่านยังคงโหยหาอดีต ที่ขาดหายไปอยู่นะคะพี่ทรรศน์”
นัยน์เนตรเห็นสนทรรศน์ยื่นมือไปจับมือวรินทร์อย่างให้กำลังใจ
วรินทร์หันมามอง เห็นนัยน์เนตร รีบดึงมือที่สนทรรศน์จับอยู่ออก“พี่เนตร!” สนทรรศน์หันไปมองตามสายตาวรินทร์ เห็นนัยน์เนตรยืนอยู่ไม่ไกลนัก มองมาทางทั้งสองอย่างไม่พอใจ วรินทร์รีบเดินเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง “พี่เนตรเป็นไงบ้างคะ เงียบหายไปเลย”
“นั่นสิเนตร แล้วนี่มาลงทะเบียนเหรอ เราก็เพิ่งลงตัวที่ดร็อปกับวิชาที่เหลือเสร็จไปเมื่อกี้นี้เอง มา เราช่วย”
นัยน์เนตรเสียงแข็ง “ไม่ต้อง เรามาทำเรื่องพักการเรียน ก็แค่จ่ายค่ารักษาสถานภาพนักศึกษา ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรให้วุ่นวาย”
วรินทร์ตกใจ “พัก!ทั้งเทอมเลยเหรอคะ แบบนี้ก็เท่ากับจบไม่ทันเพื่อนๆน่ะสิคะ ทำไมคะพี่เนตร เกิดอะไรขึ้นคะ”
นัยน์เนตรไม่ตอบ จ้องมองวรินทร์อย่างเกลียดชัง พูดกระแหนกระแหนกลับ “เธอจะถามเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจดี”
สนทรรศน์เอ่ย “เรารู้เรื่องคุณพ่อของเนตรแล้ว เสียใจด้วยนะ”
“เสียใจทำไม พ่อฉันยังไม่ตาย”
“พี่เนตรคะ...คุณพ่อกับพี่สรรค์ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณลุงหรอกนะคะ พี่เนตรก็เห็น ว่าพวกเราทุกคนถูกอสูรมันดลบันดาลให้เข้าใจผิดกัน” วรินทร์จับมือนัยน์เนตร
นัยน์เนตรปลดมือออก “เลิกโทษอสูรซะที ถึงไม่มีอสูร เราก็ไม่มีทางญาติดีกันได้” พูดจบนัยน์เนตรเดินไปทันที
“พี่เนตร”
“ปล่อยเค้าไปก่อนเถอะอุ้ย อุ้ยก็รู้ว่าเค้าทิฐิแรงขนาดไหน อธิบายไปก็ไร้ประโยชน์ ต้องรอให้เค้าตาสว่างเอง”
วรินทร์มองตามนัยน์เนตรอย่างเป็นห่วง